1 เดือนกับ Samsung Galaxy Tab S9 FE แท็บเล็ตพร้อมปากกา S Pen จอใหญ่ แบตเยอะ งบ 2 หมื่น

เมื่อปลายปีที่แล้ว (2566) Samsung ได้เปิดตัว Tab S9 FE และ Tab S9 FE+ แท็บเล็ตที่มาพร้อมปากกา S Pen ผมก็เลยได้มาลองใช้มายาวๆ เป็นเวลา 1 เดือน

สำหรับ Tablet S9 FE มี สี Gray, สี Lavender และสี Mint

Galaxy Tab S9 FE Wi-Fi (6/128GB): 16,990 บาท

Galaxy Tab S9 FE 5G (6/128GB): 19,990 บาท

• Galaxy Tab S9 FE Wi-Fi (6/128GB): 16,990 บาท Shopee Lazada
• Galaxy Tab S9 FE 5G (6/128GB): 19,990 บาท Shopee Lazada
• Galaxy Tab S9 FE+ Wi-Fi (8/128GB): 23,900 บาท Shopee Lazada
• Galaxy Tab S9 FE+ 5G (8/128GB): 27,900 บาท Shopee Lazada

ออกตัวไว้ก่อนว่า ด้วย LifeStyle ผม พกมือถือ 2 เครื่อง ส่วนแท็บเล็ตขายไปนานแล้วเพราะรู้สึกว่าใหญ่ ขี้เกียจพก แต่ครั้นพอสายตาเราแก่ขึ้น (หรือลงหว่า?) ก็สายตายาวนั่นแหล่ะ ก็เลยอยากหาแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ ใช้เน็ตได้ตลอด ใส่ซิมได้ รองรับ 5G  งบก็ต้องไม่แรงนัก เอาเรื่องจอก่อน Samsung นี่ไว้ใจได้เลยครับ จอสวย คม สว่าง จากที่ใช้มาเดือนนึง หลักๆ ก็เอาไว้ใช้ Social ดูหนัง YouTube, Netflix, Tiktok, Lemon8 ใช้ทำงานแทนคอม ชอบมากๆ ครับ

ตัวเครื่อง ดีไซน์สวย ดูเหลี่ยมๆ แต่บาง แปะปากกา S Pen ได้ เป็นแม่เหล็ก

วัสดุดี ขนาด 165.8 x 254.3 x 6.5 มม., น้ำหนัก 523 กรัม สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 524 กรัม สำหรับรุ่น 5G

เคยใช้ iPad Wi-Fi แล้วไม่ถนัด เพราะต้องแชร์เน็ตจากมือถือให้ตลอด ไม่สะดวก พอใช้แท็บเล็ต 5G สบายเลยครับ ใส่ซิมเทพทรู ดูหนังลื่นๆ เลย โทรได้ด้วย

ลำโพง Dual Speaker by AKG, Dolby Atmos® ผมเอามาเป็นเพลง ก็เพลินๆ ดีครับ

สแกนนิ้วได้ด้วยครับ สะดวกดี

เมื่อเชื่อมต่อคีย์บอร์ด เม้าส์ ผ่าน Bluetooth ก็ใช้งานได้เหมือนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กเลย

ดังนั้น ในมุมผมก็เลย ขอบอกเล่าในมุม พนักงานออฟฟิศ นะครับ เพราะมีต่อ Keyboard ผ่าน Bluetooth ต่อ Mouse Bluetooth ใช้แทนคอมด้วย

ความสนุกของการใช้ S Pen

ผมนี่ไม่ได้วาดรูป แต่ก็ใช้จดบันทึกบ้าง สิ่งที่ชอบก็คือ การใช้ปากกาเสกร่ายแปลภาษาครับ สนุกดี

ให้เอาปากกาแตะตรงมุมขวากลางของหน้าจอ เลือก Translate แต่ถ้าไม่มีเมนูนี้ก็ปรับแต่งให้แสดงขึ้นมาได้

เมื่อเปิดใช้งานจะมีเมนูแปล ผมเลือก EN – TH เราเลือกภาษาได้เองทั้งต้นทาง และปลายทาง ครับ

สลับ เลือกเมนูคำสั่งที่ใช้บ่อยมาวางไว้ตรงแถบได้เลย

โดย S Pen สามารถแปลภาษาได้ทันที เพียงแค่ใช้ปากกาชี้ที่คำหรือประโยคที่ต้องการ โดยจะต้องไปแตะตรงไอคอนปากกาก่อน แล้วเลือก ภาษาที่ต้องการแปล เวลาเราเข้าเว็บ แล้วอยากรู้คำแปลก็แค่เอาปากกาจ่อ (เรียกว่าจ่อ นะครับ ไม่ได้แตะ ไม่ได้ออกแรงกดใดๆ) หรือในขณะดูหนังก็สามารถแปลคำในวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่ได้ แต่หนังผมว่ามันมีซับไตเติ้ลอยู่

ปากกา S Pen แตะกับขอบเครื่องได้ อันนี้ถ้าใครใส่เคสอาจจะหาเคสแบบแปะ หรือไม่ก็ใส่ปากกาเข้าไปได้

จอใหญ่ 10.9 นิ้ว (สำหรับรุ่น Tablet S9 FE) ส่วนอีกรุ่น Tablet S9 FE+ 12.4″ ผมว่าจอ 10.9 นิ้ว กำลังพอดีครับ ไม่ใหญ่ ไม่เล็กจนเกินไป ส่วนตัวผมเคยขาย iPad เพราะจอใหญ่ พกไม่สะดวก ได้แต่ใส่เป้ไปแล้วไม่ได้หยิบออกมาใช้เลย

ผมปรับความสว่างหน้าจอไว้แค่นี้เองครับ ประมาณ 30% เอง ก็สว่าง มองสบายตาแล้วครับ

หน้าจอ รองรับ Refresh Rate สูงสุด 90 Hz แต่หลักๆ เราก็ปล่อยให้ระบบจัดการอย่างเหมาะสมไป ความสว่างหน้าจอยังเพิ่มขึ้นถึง 600 nits จากที่ใช้งานทั่วไป เปิดหน้าจอสว่างไม่ถึงครึ่งก็สว่างพอดีกับการมองเห็นแล้ว

ผมว่าจอสู้แสงดีครับ สว่างดี คมชัดดี เหมาะกับใช้งานได้ทุกที่ มี Dark Mode ด้วย

Tablet S9 FE และ Tablet S9 FE+ มาพร้อม Goodnotes ให้ใช้ฟรีตลอดระยะเวลา 1 ปี

อันนี้ดีมากครับ ชอบสุดๆ สะดวกดี จดบันทึกง่าย ปกติผมใช้ Galaxy S22 Ultra ใช้แอป Notes ปกติเลยครับ แต่บน GoodNotes สะดวกดีบนแท็บเล็ต

Goodnotes ใช้ฟรี 1 ปี

การจดบันทึก เขียนด้วยลายมือผ่าน GoodNotes สะดวกดี

DeX Mode

ผมชอบมากครับ ในระหว่างที่รีวิวก็มีอัปเดตให้รอบนึง หลักๆ DeX Mode คือใช้แท็บเล็ต หน้าตาเหมือนคอมเลยครับ ปกติเราใช้แท็บเล็ต Android แต่พอเป็น DeX Mode จะใช้งานได้เหมือนคอมเลยครับ

หน้าตา DeX Mode ก็แนวๆ Windows / Mac เลยครับ จะมีปุ่มคล้ายๆ ปุ่ม Start สลับแอปง่าย สะดวก หน้าจอแบบ Desktop เลย พอใช้ปากกา, ต่อคีย์บอร์ด เม้าส์ พิมพ์รัวๆ ได้เหมือนคอมเลยครับ

เวลาออก ให้กดไปที่ Exit DeX ครับ

สิ่งที่ผมชอบเวลาใช้ Tablet ก็คือตอนอ่านข้อความ SMS, E-Mail ครับ สะดวกดี เพราะมันมี 2 ฝั่ง อ่านง่าย

สำหรับสาย Multi-tasks ไม่ต้องห่วง Tablet S9 FE สามารถเปิดหน้าจอทำงาน และหน้าจออื่นๆ ได้พร้อมกันถึง 3 จอ เพื่อประสิทธิภาพที่มากกว่าเดิม

กันน้ำ กันฝุ่น IP68 อันนี้ดีเลย เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทาน

แบตเตอรี่ 8,000mAh แม้จะไม่ได้แบตเยอะเท่ารุ่น FE+ แต่จากที่ใช้งานได้ประมาณ 2 – 3 วัน ผมก็ว่าโอเคแล้วล่ะ แล้วแต่เราใช้แอปอะไร ถือว่าประทับใจ รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W ทำให้เราใช้งานนอกสถานที่ได้ตลอดทั้งวัน ถ้าจะชาร์จเราก็มี Power Bank / พกสายชาร์จไปอยู่แล้ว

ระยะเวลาใช้งานขึ้นอยู่กับ การใช้แอป การปรับความสว่างหน้าจอ ล็อคหน้าจอ กรณีนี้ผมใช้ดู YouTube, Netflix, Viu

แนะนำให้พิจารณาว่าเราใช้แอปไหนบ้าง แอปไหนใช้แบตเยอะแค่ไหน จะได้รู้ว่า เราควรพก Power Bank ไปข้างนอกด้วยหรือเปล่า แต่สำหรับผม การใช้งานที่ครอบคลุมทั้งวัน แล้วกลับมาชาร์จที่บ้าน ถือว่าโอเคมากๆ ครับ

กล้องหลัง

กล้องหลัง 8 MP มีกล้องเดียว ส่วนกล้องหน้า 12 MP Ultra-Wide กล้องเดียวเช่นกัน

ต้องบอกไว้ก่อนว่า เอาจริงๆ แท็บเล็ต ไม่ได้เน้นกล้องมากนัก จะเน้นใช้วีดีโอคอลล์ตอนประชุมออนไลน์ แต่ภาพที่ออกมา กล้องหลังก็สวยดีครับ

ถ้าใช้ทำคอนเทนต์ก็ออกมาดีเลยครับถ้าแสงพอครับ

หลักๆ ผมเอามาใส่ข้อความเพิ่ม เพื่อให้โพสต์บน Social ทำรีวิวต่างๆ

กล้องหน้า ไม่ได้เว่อร์วัง เน้นใช้คุยวีดีโอคอลล์ ประชุมออนไลน์ครับ

ทั้งนี้ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับแสงด้วยครับ แสงออฟฟิศมันแนวๆ นี้

อุปกรณ์เสริมที่แนะนำคือ Book Cover Keyboard เอามาต่อกับขั้วท้ายเครื่องในภาพนี้

ดูรายละเอียดตัวเครื่อง https://www.samsung.com/th/tablets/galaxy-tab-s9-fe/buy/

วางจำหน่าย ผ่านช่องทางออนไลน์ บนเว็บไซต์ samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ

สรุปคือ ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน ความบันเทิง แบตเยอะ ใช้ 5G ได้ รับ OTP / SMS ได้ ประชุมออนไลน์ก็สะดวก กล้องหน้าดี กล้องหลังดี งบ 2 หมื่น ถือว่าน่าสนใจมากๆ ครับ

ขอขอบคุณ Samsung เอื้อเฟื้อให้ยืมอุปกรณ์ทดสอบ ร่วมเดือนกว่าๆ เลยครับ