ตามไปดู Milan Trend Remix จาก Sansiri และ Wallpaper #trendremix

[Sponsored Content]

หลายๆคนอาจจะเคยรู้จักงานออกแบบระดับโลกที่ Milan ทางแสนสิริ และ Wallpaper ได้นำเสนอแนวคิดของการออกแบบ โดยนำประสบการณ์ตรงจาก Milan Fair มานำเสนอไอเดียในการออกแบบ

ตอนแรกผมก็สงสัยว่า การออกแบบ เกี่ยวอะไรกับบ้าน แต่เมื่อมองภาพของ แสนสิริแล้ว ทำให้รู้ว่า บ้านน่าอยู่เพราะการเอาใจใส่กับการออกแบบที่ดี Milan เป็นงานแฟร์ที่คนออกแบบระดับโลกใฝ่ฝัน นักออกแบบไม่ใช่แค่มองดูรอบๆ ดูจากหนังสือ แต่ทีมของ Sansiri Design ได้ออกแบบด้วยการไปดูงานจริง ไปสัมผัสการออกแบบจริงๆ แล้วดูว่าเหมาะสมกับคนไทยและความเป็นอยู่จริงของคนไทยหรือไม่ แสนสิริทำให้บ้าน ไม่ใช่แค่ตึกพักอาศัย แต่เป็นชีวิตความเป็นอยู่ที่มีความสุข ดังนั้น การออกแบบจึงสำคัญ

ทำไมงานนี้จึงจัดที่ Sansiri Lounge ก็เพราะว่า การออกแบบ การดีไซน์ เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้บ้านน่าอยู่

รอบนี้ผมเอากล้อง BenQ GH200 มาด้วย แต่รายงานด้วย HTC One X



ช่วงแรกเป็นช่วงของผู้บริหารแสนสิริเล่าถึงที่มาที่ไปของงาน Trend Remix จาก Milan ว่า ทีมการออกแบบไปดูงานออกแบบ ซึ่งแต่ละโครงการของแสนสิริ ไม่ใช่แค่กระดาษ วาดผัง วาดแปลน แต่ไปดูงานจริงๆ และมีโปรเจคร่วมกับ Wallpaper ในการออกแบบ

หลายๆคนอาจจะรู้จักงาน #milan เพราะก่อนหน้านี้ ผมก็เคยทวิตแนะนำงาน Milan Fair งานระดับโลกด้านการออกแบบ นักออกแบบมักจะไปงานนี้เพื่อมองหาแรงบันดาลใจในการออกแบบ และอัพเดตเทรนด์ในการออกแบบ งานดีไซน์ ผมมองว่าก็เหมือนกับคนไอทีที่อยากจะไปงาน Computex หรืองาน WWDC ของ Apple คืองานระดับโลกแบบนั้นเลย

ในงานก็มีการหยิบยกงานดีไซน์แปลกๆและอัพเดตเทรนด์ของการดีไซน์ให้ดู มุมมองตอนนี้ก็คือ การออกแบบไม่ใช่แค่การดีไซน์ให้สวยๆ หรูๆ แต่ใช้จริงไม่ได้ งานออกแบบที่ไปดูทำให้เราได้ค้นหาไอเดียใหม่ๆ หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่อยู่อาศัยไม่ใช่แค่ตึก อาคาร แต่เป็น “ชีวิต” ใช้งานจริง

เพราะจากที่ดูแล้ว การออกแบบจะพิถีพิถัน เน้นวัสดุ เพราะเอาจริงๆ กว่าจะเป็นเก้าอี้สักตัว ต้องลองแล้วลองอีก ลองวัสดุหลายๆอย่างเพื่อให้เรานั่งสบาย เราใช้งานได้จริง

และที่น่าชื่นชมคือ การออกแบบโต๊ะที่เอาไว้หลบตอนที่เกิดแผ่นดินไหว หากถึงเวลาฉุกเฉิน เขาคิดไปถึงเรื่องโครงสร้างโต๊ะกันเลย ใช่แค่แค่โต๊ะมีขา 4 ขา

ขนาดลายเนื้อไม้ก็ต้องเลือกกันให้ดีเลย การออกแบบต้องคิดว่า จะเลือกเนื้อไม้แบบไหน

งาน Trend Remix จาก Milan ทำให้เรามองภาพการออกแบบว่า มีการใช้เทคนิคของมุม การซ่อน การใช้สี การเลือกโทนให้เหมาะสม เพราะมันสื่ออารมณ์ผู้ที่อยู่อาศัยได้เหมือนกันนะ

และอย่าคิดว่าการออกแบบเขาไม่คิดเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาตินะ นักออกแบบตอนนี้เขาคิดถึงว่า เอากระดาษหนังสือพิมพ์มาอัด ทำเป็นไม้ เป็นคอนเซปต์จากการนำเอาของเหลือใช้มารีไซเคิล ถ้าเราทำเองมันก็ได้นะแต่มันไม่คงทน อันนี้เอามาอัดแน่นเป็นรูปทรงใช้งานได้นาน จริงๆมีการคิดหลายแบบ อย่างการทำโต๊ะกินข้าวที่ปลูกผักสวนครัวได้ ตอนแรกก็คิดว่าขำๆ แต่ก็มีคนคิดจริงๆได้ด้วยแฮะ

เห็นแบบนี้ นั่งได้นะครับ ไม่ต้องกลัวทิ่มก้น

และอีกมุมนึงก็คือ การคิด การต่อยอด อย่างการเปิดปิดไฟ ปกติต้องเดินสาย ต้องมีสวิตซ์ไฟ แต่อันนี้ แค่หักก็ปิดไฟ สวยด้วย ยืดตรงก็เปิดไฟ

อีกเรื่องก็คือ ความยืดหยุ่นในการออกแบบ และความอเนกประสงค์ เพราะสรีระของคนเราไม่เหมือนกัน ดังนั้นการถอดประกอบเองได้ การเลือกรูปทรงให้สอดรับกับสรีระของเราได้นี่แจ๋วเลย

ต่อมา มาชมกันกับ Milan Report เรื่องน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า การออกแบบต่างๆนั้น นักออกแบบจะมีแรงบันดาลใจมาจาก สังคม สิ่งแวดล้อม ประชากร ความกดดัน ความเครียดของสังคม ไม่ใช่การเปิดหนังสือดูแล้วชอบ มุมมองจากมิลานคือ ทำของให้ชิ้นเล็กลง ขนย้ายง่าย น้ำหนักเบา ต่อไปจะไม่มีใครแบกของหนักๆแล้ว ขนเอง ประกอบเอง

เราสนใจเรื่องวัสดุมากขึ้น การออกแบบให้ถอดเปลี่ยนได้ เปลี่ยนสีได้ ถอดพนักเก้าอี้ได้ เพื่อบรรยากาศในการอยู่อาศัย และความอเนกประสงค์

การออกแบบต่างๆนั้น Designer ย้อนกลับไปในปี 1950 เพราะไม่อยากให้ทำลายธรรมชาติ สะท้อนมาจากสังคม ไม่ใช่เปิดหนังสือแล้วชอบ มาจากความคิดของสังคม ความตึงเครียด ความกดดันของสังคมที่กำหนดการออกแบบ

นอกจากนี้การออกแบบยังคำนึงถึง Carbon FootPrint ลดมลภาวะในอากาศ โดยคำนึงถึงวัสดุที่ใช้

และสำหรับนักออกแบบแล้ว การนึกถึงความเป็นไทย ไม่ใช่แค่ลายไทย ไม่ใช่แค่ลายกนกนะ แต่เป็นมากกว่านั้น มันคือความเป็นอยู่ของคนไทย และหลายๆอย่าง ทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงในอดีต

มุมมองของการอยู่อาศัย สภาพสังคม สภาพความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป นักออกแบบไม่ได้มองแค่การอยู่อาศัยของ “คน” แต่มองไปถึง สัตว์เลี้ยง คนเมืองใหญ่ไม่ยอมมีลูก แต่มีสัตว์เลี้ยง ตัวอย่างคือ โซฟาสุนัข

และ ดีไซเนอร์จาก Thinkk – Studio 248 Designer ไทยในงานมิลานแฟร์ ได้มาแนะนำการออกแบบว่า แนวคิดในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ต้องคำนึงถึงการใช้งานได้จริง รองรับการนั่ง ถูกต้องตามหลักสรีระ ไม่ใช่สวยแต่นั่งแล้วเมื่อย ปวดหลัง การใช้งานจริง เอาจริงๆ บางอย่างเราไม่ได้ใช้

อย่างเช่น แนวคิดของ ตู้เสื้อผ้า มาจากการที่แม่บ้านเก็บเสื้อผ้าให้ แล้วเอามาแขวนไว้ อาทิตย์นึงเราใส่จริงๆแค่กี่ตัว แล้วในตู้มีแขวนไว้กี่ตัว? ตู้เสื้อผ้ากลายเป็นที่เก็บของ เพราะเอาจริงๆเราใส่ไม่กี่ตัว ดังนั้น 7 day closet เป็นตัวอย่างการ organize เสื้อผ้า

ของบางอย่าง อย่างของเล่นสมัยเด็ก ลูกข่าง ก็เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบได้เหมือนกัน ของเล่นตอนเด็ก กลายเป็นความสร้างสรรค์แรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม อย่างรถเครน ใครจะไปคิดว่า มันจะออกมาเป็นโคมไฟเครน ที่ปรับระดับ หมุนได้อิสระแบบนี้

และได้ทิ้งท้ายด้วยคำคมที่บาดใจนักออกแบบ “คนรักงานดีไซน์ แม้ว่าจะเหนื่อย ลำบาก แต่ก็ทำด้วยใจรัก อยากโชว์ผลงานให้คนอื่นดู”

ขอขอบคุณ แสนสิริ ที่จัดงานดีๆแบบนี้ ให้เราได้เปิดมุมมองใหม่ครับ 🙂