เล่าประสบการณ์ ขอ “เก็บวงเงินไว้ใช้” สำหรับโรงแรม – สายการบิน หลังทริปจีนล่ม เหตุโคโรน่าไวรัส 2019 (COVID-19)
ครอบครัวเรามีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวจีน (ในแพลนคือ เที่ยวดีสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้) ในเดือนมีนาคมนี้ (12 – 19 มีนาคม) ซึ่งเราตื่นเต้นกันมาก เพราะไม่เคยไปจีนเลย เมื่อต้นปี พ.ศ. 2563 วันที่ 3 มกราคม 2563 เราเดินทางไปขอทำวีซ่าจีน (วีซ่ามีระยะเวลาเเค่ 3 เดือน) ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเตรียมการล่วงหน้าก่อนเที่ยว เพราะเราจอง ห้องพักใน Agoda และเที่ยวบินไป-กลับ ไว้แล้วตั้งแต่กลางปีก่อน (2562) ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีข่าวการแพร่กระจายของโคโรน่าไวรัสเลย และเมื่อต้นปี อเจนซี่ที่ทำวีซ่าให้เรา ก็ไม่ได้ทราบข่าว เพราะยังไม่มีข่าวออกมาเลย
พอข่าวออกมา ช่วงวันที่ 20 มกราคม เราก็ปรึกษากัน เอายังไงดี ติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะเรากำลังจะเดินทางไปจีน ในช่วงนั้น บริษัทเรา ก็เริ่มประกาศว่า ถ้าใครเดินทางไปจีน พอกลับมา ให้ทำงานที่บ้าน 14 วัน โดยแจ้งผู้บังคับบัญชา ก่อนเดินทาง ณ เวลานั้น เราติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดมากๆ พร้อมตรวจสอบ สายการบิน (จองเอง) และโรงแรม (จองผ่าน Agoda) ซึ่งยังไม่มีนโยบายให้เลื่อนตั๋ว – เลื่อนการจองห้องพักโรงแรมในช่วงวันที่เราเดินทางเลย ช่วงแรกนั้น ข่าวระบุว่าสายการบินให้เลื่อนเที่ยวบิน สำหรับคนที่เดินทางในช่วงวันที่ 24 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งยังไม่ครอบคลุมกำหนดที่เราเดินทาง คือเดือนมีนาคม 2563
ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สถานการณ์ไม่สู้ดี แถมมีประกาศออกมา เราค้นหาข้อมูล เตรียมปรึกษาหัวหน้างาน และ HR ถ้าเราจะต้องไปจีนจริงๆ และเราปรึกษากับครอบครัวว่า แม้เราจะไปเที่ยวเซียงไฮ้ ปลอดภัยกลับมา ไม่ได้ติดไวรัส แต่การที่เราจะไปทำงานออฟฟิศ เราต้องกักตัวเองอยู่บ้าน 14 วัน ก็คือ Work at Home และในประกาศ ก็รวมไปถึง คนที่บ้านที่เดินทางไปจีนด้วย ซึ่งหมายความว่า ท้ายที่สุดแล้ว แม้เราจะไม่ได้เดินทาง แต่ถ้าคนในบ้านเดินทางไปจีน เราก็ต้องกักตัวทำงานอยู่ที่บ้านอยู่ดี เอายังไงดีล่ะ ซึ่ง ณ ตอนนั้น ถ้าคืนตั๋ว – เลื่อนตั๋วไม่ได้ ก็สูญรวมๆ เงินก็ร่วม ครึ่งแสน แน่นอน เพราะว่าเราจองสายการบิน Low Cost ซึ่งยกเลิกเที่ยวบินไม่ได้
7 ก.พ. 63 ขอคืนเงินที่จองโรงแรมผ่าน Agoda เป็นเครดิต Agoda Cash ตอนนั้นคิดว่า ถ้าจะไป ก็ค่อยจองใหม่ก็แล้วกัน เราพยายามติดต่อ Agoda และโรงแรม เพื่อสอบถามนโยบายของคืนเงิน (ผ่านโทรศัพท์) ซึ่งแน่นอนว่าการคืนเงิน ยุ่งยาก (รอ 45 วัน) และถ้ายกเลิกก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะจองในเงื่อนไข “ยกเลิกไม่ได้” ดังนั้น จึงเจรจา ขอคืนเป็นเครดิต Agoda Cash อันนี้เรียบร้อยไป 1 อย่างละ ถ้าจะจองอีกรอบ ก็ต้อง Booking ภายใน 90 เดือน แต่สามารถเดินทางตอนไหนก็ได้
บอกไว้เลยว่า เงื่อนไขของเราไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เพราะในประกาศของ Agoda ระบุว่า “สามารถยกเลิกการจองได้ฟรีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ โดยมีวันเช็คอินระหว่างวันที่ 24 มกราคม 2563 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งก็ยังไม่ใช่วันเดินทางของเรา (แม้ว่า Agoda จะไม่ได้ประกาศวันที่ ถึงวันเดินทางของเรา แต่การจะรอจนถึงนาทีสุดท้าย รอประกาศ 1 มีนาคม 2563 ก็คงไม่ได้ เพราะเราก็ต้องขออนุมัติลางานเช่นกัน)
ย้ำอีกรอบว่า Agoda ประกาศให้ “ยกเลิก” ได้ แต่สำหรับ Booking ของเรานั้นเป็นเงื่อนไข “ยกเลิกไม่ได้ คือได้ราคาห้องพักถูกที่สุด” ทำให้เราต้องขอเครดิตคืนจาก Agoda แทน
ส่วนการยกเลิก (อ้างอิงประกาศ Agoda) เข้าไปที่
แอป Agoda : เข้าสู่ระบบ -> เลือกเมนู “การจอง” -> เลือกการจองที่ต้องการยกเลิก -> “ยกเลิกการจอง” -> เลือกเหตุผลที่ต้องการยกเลิกการจอง
เว็บไซต์ agoda.com : ไปที่หน้าเว็บไซต์แล้ว เข้าสู่ระบบ เลือกเมนู “การจองของฉัน” -> เลือก “แก้ไขการจอง” -> “ยกเลิกการจอง”
ในเมื่อ ตามประกาศยังระบุวันที่ 24 มกราคม 2563 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 แต่แล้ววันเดินทางเราก็ยังไม่ครอบคลุม เราแนะนำว่า ให้ปรึกษา โรงแรม แล้วติดต่อ Agoda (บาง booking การจอง ถ้าโรงแรมไม่อนุญาต ทาง Agoda ก็เลื่อนหรือยกเลิกให้ไม่ได้) หรือไม่ก็ติดต่อ Agoda ให้คุยกับโรงแรม ซึ่งบอกเลยว่า ผลเป็นยังไงนี่ต้องลุ้นจริงๆ เงื่อนไขแต่ละโรงแรมไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเราที่จองโรงแรมที่เซี่ยงไฮ้ 12 – 19 มีนาคม แบบ “ยกเลิกไม่ได้” ดังนั้น เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ แม้จะยังไม่มีประกาศมาถึงวันที่เราเช็คอิน เราก็สอบถามเจ้าหน้าที่ ขอคืนเงิน หรือขอคืนเครดิตเข้า Agoda ถ้าใครจองผ่านโรงแรมโดยตรง อันนี้ต้องคุยกับโรงแรมเองนะครับ ว่าจะยอมหรือเปล่า เรื่องยกเลิก คงเป็นไปได้ยาก เรื่องคืนเงิน ก็ยุ่งยาก ถ้างั้น ขอเครดิตคืน น่าจะมีทางเป็นไปได้มากกว่า (กรณีแอปจอง ก็จะดีแบบนี้)
ต่อมา เราคิดว่า ทริปจีนล่ม งั้นเราไปสิงคโปร์ดีไหม สักพัก ข่าวออกมา แล้วก็ยกระดับ ฮ่าาาา ต่อมา (อีกที) เราว่า ไปญี่ปุ่นดีกว่า ตอนนั้นยังไม่มีข่าวอะไร พอไม่กี่วัน บายจ้าาาา ญี่ปุ่นจ๋าา
14 ก.พ. 63 มาต่อกันที่สายการบิน AirAsia นั้น การยกเลิก เป็นไปไม่ได้เลย (เพราะจอง Low Cost ถูกอยู่แล้ว) ดังนั้นการขอเป็นวงเงินเก็บไว้ใช้ น่าจะดีกว่า เราต่อรองขอคืนเป็นวงเงินเก็บไว้ใช้ (เคยจำได้ว่า ไม่ว่าอะไรก็ตาม การขอคืนเป็นเงิน จะยุ่งยาก ช้า และมีขั้นตอนเยอะ เพราะมันคือเกี่ยวกับเรื่องบัญชี)
ซึ่งเรายื่นเรื่องขอคืนเป็นวงเงินเก็บไว้ใช้ ก่อนที่ทาง AirAsia จะออกประกาศในวันที่ 23 ก.พ. 63
ล่าสุด AirAsia ประกาศให้ “เปลี่ยนเที่ยวบิน” โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยน หรือ “เก็บวงเงินไว้ใช้” กำหนดการเดินทาง สำหรับเส้นทางบินญี่ปุ่นเเละเกาหลีใต้ ตั้งเเต่วันนี้ถึง 31 มี.ค.63 วิธีติดต่อคือ ผ่าน AVA LIVE CHAT ดูวีดีโอ Step-by-Step
โดยทั้งสายการบินและบริการจองโรงแรม เมื่อขอวงเงินคืนแล้ว สามารถจองใหม่ได้ภายใน 90 วัน แต่สามารถเดินทางตอนไหนก็ได้ อันนี้ดีมาก
สิ่งที่เราสูญไป ก็คือ “วีซ่าจีน” เราทำวีซ่า ไป 3 คน เสียเงินไปร่วมๆ 7 พันบาท (ให้อเจนซี่ทำให้) ส่วน Agoda และ AirAsia ยอมให้เราขอคืนเป็นเครดิตหรือวงเงินเก็บไว้ใช้ได้ แต่ต้องจองตั๋วเดินทางใหม่ด้วยวงเงินภายในวันที่กำหนด และจองโรงแรมภายในวันที่กำหนด ถือเป็นข้อเสนอที่ดีมากๆ สุดท้ายแล้ว เราเสียเงินไป 7 พันกว่าบาท ก็ยังถือว่าเสียหายน้อย จากตอนแรกที่กังวลว่าสูญเงินครึ่งแสนชัวร์
สุดท้ายนี้ เรารู้ว่า โรงแรม – สายการบินไหนที่ช่วยเหลือเราได้ ในยามสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นปีหน้าเราจะกลับไปอุดหนุนโรงแรมเดิม และสนับสนุนสายการบินเดิม เพื่อตอบแทนความห่วงใยให้เรา
One thought on “เล่าประสบการณ์ ขอ “เก็บวงเงินไว้ใช้” สำหรับโรงแรม – สายการบิน หลังทริปจีนล่ม เหตุโคโรน่าไวรัส 2019 (COVID-19)”