2 สัปดาห์กับ ZTE Blade S7 ดีไซน์หรู พร้อมสแกนลายนิ้วมือ และสแกนม่านตา

ได้มีโอกาสใช้งานมือถือ 4G 2 ซิม ZTE Blade S7 เป็นเครื่องหลัก ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ แวบแรกที่เห็น ทำไมหน้าตาเหมือนมือถือค่ายผลไม้ Gen 5 จัง ส่วนสัมผัสแรกจับถนัดมือดี ขอบด้านหน้าสีขาว ด้านข้าง และด้านหลังเป็นสีเขียวมะนาว จุดเด่นมาพร้อมกล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียด 13MP พร้อมสแกนลายนิ้วมือ และสแกนม่านตา ในราคา 11,900 บาท

ผมใช้  ZTE Blade S7 ถ่ายภาพอาหาร ร้านอาหาร TheSQUARE @Novotel Bangkok Fenix Silom และนำไปใช้ในงานแถลงข่าว event งาน blogger ต่างๆ ใช้ทำงานจริง หลักๆเน้นใช้กล้อง วีดีโอ Social Network ที่ใช้คือ Facebook Instagram Twitter ไม่ได้เล่นเกม ใช้ Speed Test อีเมล์ Messenger

จากการใช้งานเป็นเครื่องหลัก การใช้งานจริง รองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี ในส่วนของ Finger Scan ทำได้ดี ลองใส่รหัสผ่านปลดล็อกตัวเเข้าแอพ IG ครื่องออกแบบให้จับถนัดมือ ผมถนัดมือขวา ก็ใช้นิ้วโป้งวางลงไปตรงปุ่ม Home สักครู่ เครื่องสั่น แสดงการตอบสนองลายนิ้วมือได้ดี

ผมใช้งาน ZTE Blade S7 2 สัปดาห์ คุ้นเคย ทั้งถ่ายภาพ ใช้งาน Social ถ่ายวีดีโอ ตัดต่อวีดีโอผ่าน Adobe Premier Clip (ฟรี) ใช้อีเมล์ Facebook Twitter LINE Instagram เป็นหลัก เรียกว่าตอบสนอการใช้งาน กล้องก็ดี ใช้งานก็ลื่น และรองรับการใช้งานหนักๆอย่างการตัดวีดีโอได้ดี จนผมบอกน้องๆในแผนกที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เพื่อตัดต่อวีดีโอว่ะ ถ้าไม่ได้ใช้อะไรมาก ใช้มือถือตัดคลิปก็ได้นะ

สเปค ZTE Blade S7

• Android 5.1
• 3G 850/900/1900/2100MHz
• 4G 800/900/1800/2100MHz
• รองรับ 2 SIM โดยซิม 1 3G/4G เป็น MicroSIM อีกช่อง SIM 2 ใส่ได้ทั้ง MicroSD และ Nano SIM เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
• CPU Qualcomm Snapdragon 615 Octa Core 1.5GHz 
• RAM 3GB 
• หน่วยความจำตัวเครื่อง 32GB เพิ่ม MicroSD ได้
• สีเขียวอ่อน
• หน้าจอ 5 นิ้ว แบบ FHD INCELL 2.5D
• ขนาดพกพาง่าย 142x67x7.2 ม.ม.
• แบตเตอรี่ 2500mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
• สแกนลายนิ้วมือ สูงสุด 5 ลาย (5 คน)
• สแกนม่านตา

เพิ่มเติม

สำหรับการใส่ซิม รองรับการใส่ซิม 2 ซิม โดยจะมีถาดนึงเป็นถาดซิม อีกถาดให้เลือกว่าจะใส่ซิมหรือ MiroSD

Finger Print หรือการสแกนลายนิ้วมือ ทำได้ดี ง่าย แตะนิ้วกดลงไป ค้างไว้นิดนึง

สแกนม่านตา ดูไม่เป็นเรื่องแปลกแล้วสำหรับยุคนี้ ผมมีวีดีโอมาฝากครับ ตอนลงทะเบียนม่านตา ผมใส่แว่น ยืนตรงหน้าทางเข้าสถานี MRT ตอนปลดล็อกผมทำที่ออฟฟิศ ไม่ได้ใส่แว่น

การตั้งปลดล็อค ทำได้ทั้ง สแกนลายนิ้วมือ ม่านตา ลากนิ้วบนจอ รหัสผ่าน เลือกได้ตามต้องการ หรือถ้าเลือกเป็นสแกนม่านตา หากอยู่ในสถานที่ไม่เหมาะจะหยิบขึ้นมาสแกนก็ป้อนรหัสผ่านแทนได้

สำหรับการใช้งาน ตัวเครื่องในครั้งแรก จะมีการแนะนำว่า ลากจากบนลงล่าง แสดง Notification ลากจากล่างขึ้นบน จะมี Home edit เป็นแผงปรับหน้า Home สะดวกในการปรับแต่ง แต่ผมไม่ได้ใช้อะไรตรงนี้ ใช้แบบเดิมๆ แต่ก็ถือว่าสะดวกมากๆ

ในวันแรกๆของการใช้งาน ผมใช้ Wi-Fi เป็นหลัก (ตอนนั้น ซิมอยู่กับเครื่องทดสอบอีกเครื่อง ) งานแรกก็พกไปถ่ายรีวิวร้านอาหาร TheSquare เป็นร้อยรูป แล้วอัพขึ้น Facebook Twiter แบตเตอรี่ในการใช้งาน Wi-Fi ใช้งานได้ทั้งวัน

นับเวลา ช่วงก่อน 16.00น. แบตจาก 100% ใช้ถ่ายภาพเป็นร้อยภาพ ดูแบตอีกทีตอน 4ทุ่ม 53% นอนหลับตื่นมา 6.04น. 38% ใช้จนเกือบบ่าย 4 (16.00น.ของอีกวัน) ประมาณเวลา 24-25 ชั่วโมงบนการใช้งาน Wi-Fi

ในขณะที่การใช้งานแบตเตอรี่บน 4G ใช้งานได้เป็นวันอยู่เหมือนกัน แต่อาจไม่ได้ถ่ายรูปรัวขนาดวันที่ไปรีวิวร้านอาหาร

ทางด้านการใช้งาน คล่องตัวด้วย Quick Menu เปิดปิด Wi-Fi / data SIM1&2 / Airplane Mode / เสียง & สั่น / bluetooth  / sync / hotspot / location / rotate screen / ตั้งค่า Dual SIM เรียกได้ว่า ในหน้าจอนี้ กำหนด ปรับแต่งได้สะดวกและคล่องตัวแบบไม่ต้องเข้า setting (มุมขวาบน) เลย

ดูคลิปการใช้งานประกอบ (8 นาที แสดงเมนูต่างๆ การตั้งค่า พร้อมสาธิตการสแกนม่านตา)

ในขณะที่การใช้งาน 2 ซิม กำหนดการใช้งาน โทร เน็ต เปิด ปิด ได้ตามต้องการ

การทดสอบผมใช้งานอย่างเต็มที่ ถ่ายวีดีโอ ตัดต่อวีดีโอด้วยแอพตัดต่อวีดีโอต่างๆ ลองหลายแอพเลย
แบตลดเยอะตอนตัดต่อวีดีโอ

ผมใช้ทุกอย่างจริงๆ ไม่ใช่แค่เครื่องทดสอบ แต่หยิบมาใช้จริง อย่างเช่น บทความที่ตรวจสอบว่าแอพ เรื่องตลกๆ คิดเงินจริงหรือเปล่า

ลงแอพ CamCard ใช้สแกนนามบัตร ทดสอบกล้อง ความไวโฟกัส กับการอ่าน OCR ตัวอักษรด้วยแอพ

กลับมาที่การใช้งานแบตเตอรี่ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ใช้งานตั้งแต่ช่วง เกือบๆ 9 โมง ใช้ Social LINE Facebook Instagram Twitter ถ่ายรูป วีดีโอ (วันนี้ถ่ายรูปเยอะมาก รีวิว Brain Scan ติดตามได้เร็วๆนี้) สังเกตว่าช่วงบ่าย 2 ขาดช่วงหายไป พอจะกินข้าว หยิบมือถือขึ้นมาดู อ้าว เครื่องดับ น่าจะหลังถ่าย Brain Scan ไม่ได้หยิบมือถือมาดูเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่ก็ทำให้การใช้งานขาดหายไปช่วงนึง มีการดู YouTube ด้วย

อีกปัจจัยที่ผมคิดว่ามีส่วนในการใช้แบตเตอรี่ลดฮวบๆ ก็คือการตั้งค่าของ Cloud App ต่างๆ ที่มักจะตั้ง default ให้อัพโหลดภาพอัตโนมัติ ยิ่งเปลืองเน็ต เปลืองแบต ควรหมั่นตรวจสอบด้วยนะครับ

การถ่ายภาพ

กำหนด Selective Focus ได้ คือถายก่อนแล้วเลือก Focus

ผมมั่นใจกับกล้อง ZTE Blade S7 นำไปใช้ถ่ายภาพอาหาร ถ่ายรีวิว ถ่ายร้านอาหารที่โรงแรม Novotel Bangkok Fenix Silom ด้วย โหมดการปรับแต่งมีให้เลือกเยอะ

Facebook รองรับ gif ก็ทำ GIF Maker ได้

ตัวอย่างภาพถ่าย ใช้ถ่ายรีวิวสินค้า ถ่ายภาพทั่วไป (ลงภาพจริง ไม่มีการปรับแต่งใดๆ ย่อภาพด้วยโปรแกรม paint เท่านั้น)

โดยรวมภาพถ่ายออกมาสวย แต่จะต้องดูการโฟกัส ดูสภาพแวดล้อม แสงด้วยเช่นกัน หากแสงดี ถ่ายภาพออกมาดีมากๆ

สรุป ZTE Blade S7 มีดีตรงที่ จับถนัดมือ วัสดุดี จอ 5 นิ้ว อยู่ในระดับกำลังพอดี พกง่าย เครื่องไม่ใหญ่จนเกินไป กล้องชัดทั้งหน้าและหลัง มีฟังก์ชั่นสแกนลายนิ้วมือและม่านตา ในราคาหมื่นต้นๆ

แต่ถ้าใครสนใจสี Smart Black เหลือ 9,990 บาท 

รายละเอียด