แชร์ประสบการณ์ “ครั้งแรก” กับงานวิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย Standard Chartered Bangkok Marathon 2014
ใครที่ติดตามบล็อกและ Social Media ของผม จะรู้ว่า ผมเริ่มออกกำลังกายจากคอร์ส T25 แล้วหันมาเริ่มวิ่ง งานแรกคือ 12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน กรุงเทพฯ 2014 ที่ลองมาวิ่งดูว่าเป็นยังไง แต่ละเดือนผมจะเข้าร่วมวิ่งการกุศล ผมตั้งเป้าไว้ว่า จะใช้เหงื่อแลกบุญ เพื่อการกุศล เพื่อช่วยบริจาค ช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ และสำหรับงานวิ่ง ที่ทุกคนรู้จัก คนทั้งประเทศรอคอย มันคืองานใหญ่ที่สุดแห่งปี Bangkok Marathon ซึ่งมีสปอนเซอร์หลักคือ ธนาคาร Standard Chartered จึงเป็นที่มาของชื่องาน Standard Chartered Bangkok Marathon 2014 นั่นเอง
ครั้งแรกของการเข้าร่วมงานวิ่งที่ใหญ่ที่สุด คนเข้าร่วมเยอะที่สุดในประเทศไทย โดยมีผู้เข้าร่วมวิ่งในงานกว่า 60,000 คน ตอนแรกผมพอจะรู้ว่ามีคนเข้าร่วมประมาณ 30,000 คน (รวมทั้งระยะทาง) ในงานมีคนเข้าร่วมกิจกรรมเยอะมากๆ คนที่ไม่สมัครก็มาวิ่งได้ แต่ไม่ได้เสื้อ ไม่ได้เบอร์วิ่ง มาวิ่งด้วยใจจริงๆ ทำให้คนในงานเยอะมาก ในภาพ ใกล้จะถึงเส้นชัย เริ่มเดินกันแล้ว วิวสวยมากๆ สนามหลวง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหลังป้ายวิ่ง ปกติป้ายวิ่งจะเป็นกระดาษด้านเดียว แต่ในงานนี้ ป้ายวิ่ง จะมีให้เรากรอก “ด้วยปากกาหมึกแห้ง” (เพราะเปียกเหงื่อชุ่มแน่ๆ) ให้เรากรอกข้อมูลในการติดต่อกรณีฉุกเฉิน โรคประจำตัว ติดต่อใครหากเกิดอุบัติเหตุ เป็นลม หมดสติ หรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะตอนวิ่ง เราไม่ได้พกบัตรประชาชน บางคนไม่ได้พกมือถือ อันนี้ถือว่าดีมากๆ
สำหรับงาน Standard Chartered Bangkok Marathon 2014 ได้จัดขึ้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นเส้นทางวิ่งที่สวยที่สุด เริ่มต้นที่ ถนนสนามไชย หน้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อนๆ blogger มาวิ่งกันหลายคนเลย (ภาพบน ก่อนวิ่ง ภาพล่าง วิ่งเสร็จแล้ว [สักพัก] เทียบ before & after เลย)
เรียกได้ว่างานนี้ เป็นงานที่มีนักวิ่งมืออาชีพ สมัครเล่น มาวิ่งสนุกๆ มาร่วมกิจกรรม มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มาร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกัน สำหรับการซ้อมวิ่ง ผมได้ลงวิ่งหลายรายการ ลงวิ่งการกุศล ซ้อมวิ่งที่สวนลุม วิ่งในลู่วิ่งที่ฟิตเนสเป็นประจำ
ครั้งแรกของผม กับการวิ่งในงาน Standard Chartered Bangkok Marathon 2014 แม้ว่าจะผ่านงานวิ่งมาหลายงานแล้ว แต่ยอมรับว่า งานนี้ผมตื่นเต้นมาก มาถึงตั้งแต่ตี 3 กว่า แถมยังเข้าห้องน้ำอีก ตื่นเต้นสุดๆ เพราะไม่เคยวิ่งงานใหญ่ระดับประเทศที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน คนก็เยอะมากๆ
ตอนเริ่มวิ่ง ก็เตรียมพร้อม วอร์มก่อน นวดน้ำมันมวยก่อน แต่ด้วยความที่คนเยอะ ทำให้เราวิ่งไม่เต็มที่นัก เพราะคนกระจุกตัวกันอยู่ ก็วิ่งแซงกันไป พอเหนื่อยผมก็เดิน สักพักก็วิ่ง เส้นทางของผมคือ 4.5K ไปทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วก็ผ่านถนนพระอาทิตย์ ย่านข้าวสาร สนามหลวง ได้มองวิวรอบๆ คนรอบข้าง วิ่ง มากันเป็นคู่ เป็นกลุ่ม พ่อแม่ลูก แถมตอนนั้นผมปวดฉี่ด้วย ฮ่าๆ พอได้น้ำ และแตงโม ก็สดชื่นขึ้น (กินขนมปังรองท้องตอนตี 4 แต่วิ่ง 6.30น.) พลังกลับมาแล้ว วิ่งได้แบบเต็มที่ ตอนนี้แดดเริ่มมาแล้ว แรงด้วย ตอนนี้ก็แซงคนอื่นๆที่เดินไปบ้าง เดินบ้าง ถ่ายรูปบ้าง (ฮา) รู้เลยว่า ทำไมเวลามีงานวิ่ง ถึงวิ่งกันตอนตี 5 ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น อย่าให้ถึง 7 โมงเลย เพราะแดดแรง ทำให้แรงเราตกและเป็นอุปสรรคในการวิ่งเพราะร้อน เหนื่อย เหงื่อท่วม
ใช้เวลาวิ่งเกือบ 1 ชั่วโมง กับ 4.5K แต่เวลาในภาพคือ มากดหยุดเอาตอนถึงจุดที่นัดกับเพื่อนๆแล้ว
รู้เลยว่าตัวเองยังซ้อมไม่พอ ยังจัดการกับการวิ่งตัวเองไม่ดีพอ แม้จะมีการซ้อม แต่ก็อาจจะไม่ถูกวิธี น่องมีอาการเกร็ง ตึง ทำให้ต้องลดระดับความเร็วในการวิ่งลง เพื่อพักให้น่องหายเกร็งเสียก่อน แล้ววิ่งต่อ วิ่งๆ หยุดๆ ดีใจที่มาวิ่งงานนี้ ทำให้เรารู้ว่าต้องซ้อมอีกเยอะ พบกันใหม่งานหน้าครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ blogger ที่ร่วมวิ่งด้วยกัน และช่วยดูแลกันตลอดเส้นทางวิ่งครับ