รู้จักกับ True Card บัตรสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ใช้บริการกลุ่มทรู (อัพเดต เมษายน 2560)

อัพเดต 19 เมษายน 2560

แนะนำ True Card อย่างย่อ >>>

ใช้ทุกบริการ TrueMove H (มือถือ) TrueOnline (เน็ตบ้าน) TrueVisions (เคเบิล และดาวเทียม) ติดต่อกันนานอย่างน้อย 6 เดือน แต่ละเดือน ยอดชำระรวมทุกบิล ครบ 2000 – 2999 บาทต่อเดือน ได้ True Red Card / ใช้ทุกบริการ เดือนละ 3000 บาท ขึ้นไป ได้ True Black Card  รายละเอียด

ถือบัตร True Black Card ดียังไง?

• รับฟรีกาแฟ หรือ Soft Drink ที่สนามบิน 12 แห่ง ทั่วประเทศ
• Parking บริการสำรองที่จอดรถ
• ส่วนลด ตั๋วหนัง SF และ Major
• มีผู้ช่วย เลขาส่วนตัว Messenger ส่งของให้

รายละเอียด

True Black Card เพิ่มสิทธิ ให้ทุกคนในครอบครัว มีบัตรสูงสุด 5 สิทธิ

ปกติแล้ว คนที่มีบัตร True Black Card จะต้องเป็นผู้ที่จดทะเบียน เป็นเจ้าของ เบอร์ TrueMove H เบอร์บ้านทรู เน็ตบ้านทรู TrueOnline และ Truevisions ทุกบริการชื่อบัตรประชาชนเดียวกัน แต่ล่าสุด ในครอบครัวนึงถือบัตรได้ 5 ใบ (สูงสุด) เพียงมีเบอร์ TrueMove H 3 เบอร์ขึ้นไป

อัพเดต :: 21 ธันวาคม 2559 สอบถาม Call Center ได้ข้อมูลว่า “ต้องเป็นที่อยู่ตามบัตรประชาชนเหมือนกันกับเจ้าของหมายเลขหลักที่ลงทะเบียนไว้ นามสกุลตรงกัน”

รับสิทธิ True Black Card สูงสุด 5 สิทธิ กด *828# โทรออก เพื่อลงทะเบียนเป็นเบอร์หลัก โดยเบอร์หลักที่เข้าเงื่อนไข จะต้องใช้แพ็กเกจ 699 บาท ขึ้นไป เมื่อได้เบอร์หลักแล้ว คนที่ 2 3 4 5 จะเป็นบุคคลในครอบครัว โดยรวมถึง มีนามสกุล หรือที่อยู่ (บ้านเลขที่, ตำบล/แขวง, อำเภอ/เขต, จังหวัด) เดียวกับเจ้าของเลขหมายหลัก นั่นหมายถึง พ่อ แม่ พี่ น้อง สายเลือด ที่ใช้นามสกุลเดียวกัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านบัตรประชาชนเดียวกัน

หลักการคือ >>> คนที่มี Black Card อยู่แล้ว ลงทะเบียนเบอร์หลัก แล้วชวนคนในครอบครัวที่ใช้เลขหมายปัจจุบัน หรือเปิดใช้เลขหมายใหม่ทรูมูฟ เอช ด้วยแพ็กเกจรายเดือนขั้นต่ำ 699 บาทขึ้นไปอย่างน้อย 2 คน หรือแพ็กเกจรายเดือนขั้นต่ำ 1099 บาทขึ้นไปอย่างน้อย 1 คน มาผูกเป็นครอบครัว True Black Card จะได้รับสิทธิใช้ 4G แบบไม่จำกัดและไม่ลดสปีด พร้อมรับสิทธิ True Black Card เพิ่มอีกคนละ 1 สิทธิ ผ่านแอพพลิเคชั่น True You หรือกด *999# แล้วกดโทรออก (ยกเว้นลูกค้า True Black Card เดิมจะไม่ได้รับสิทธิเพิ่ม) สำหรับกรณีที่เลขหมายเสริมดังกล่าวค้างชำระค่าบริการ หรือมีค่าปรับต่างๆ เกิดขึ้น ท่านยินยอมชำระค่าบริการ หรือค่าปรับนั้นๆ แทนคนในครอบครัว

ลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญ

กด *828# แล้วกดโทรออก จากเบอร์ TrueMove H ที่เป็น True Black Card ที่ผ่านเงื่อนไข เพื่อลงทะเบียนเป็นเลขหมายหลัก

จะได้รับ sms แจ้งยืนยันการลงทะเบียน และดำเนินการรับสิทธิให้สมบูรณ์

จากนั้น เพิ่มเลขหมายเสริมที่ผ่านเงื่อนไขเพื่อรับสิทธิพิเศษ แต่ละคนที่ผ่านเกณฑ์ จะได้ถือบัตร True Black Card งามๆ โดย กด *828*เลขหมายเสริม# แล้วกดโทรออก จากเลขหมายหลักที่ลงทะเบียนเรียบร้อยอันแรกสุด จากนั้น รับ sms แจ้งยืนยันการเพิ่มเลขหมายเสริม (ถ้าครบตามเงื่อนไข ก็รับสิทธิพิเศษได้ทันที) ขั้นสุดท้ายก็ รับ SMS ยืนยันการรับสิทธิพิเศษจากครอบครัวทรูแบล็คการ์ด ทั้งเลขหมายหลักและเลขหมายเสริม

อ่านรายละเอียด http://www.trueyou.net/family/

เงื่อนไขการรับสิทธิ http://www.trueyou.net/family/condition.php

แพ็กเกจที่ร่วม http://www.trueyou.net/family/package.php

ลูกค้าทรู รับสิทธิ กินฟรี ส่วนลด ที่สนามบิน

บทความเดิม เมษายน 2555

จากงานเปิดตัว The new iPad ของ TruemoveH ทำให้หลายๆคนเริ่มจะได้ยินคำว่า True Card แล้วงงๆว่ามันคืออะไร เพราะเท่าที่เคยได้ยินมา หลายๆคนไม่เคยรู้จักบัตรนี้เลย แถมไม่มีข่าวเปิดตัวอีกด้วย ก็เลยอยากจะเขียนถึงสักหน่อย เพราะอยู่ๆ เอ่ยคำว่า True Card หลายคนคงจะงงเป็นแน่ ว่ามันคืออะไร

ทรูการ์ด [True Card] เป็นบัตรสิทธิประโยชน์ ของผู้ใช้บริการกลุ่มทรู ทั้งโทรศัพท์บ้าน, PCT, TrueOnline นั่นคือ Hi-Speed Internt, True Wi-Fi, TrueVisions, TruemoveH พวกนี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ บ้านผมมีเบอร์ทรู ใช้เน็ตบ้านทรู มือถือ TruemoveH 2 เบอร์ รวมๆแล้วค่าบริการของทรูทั้งหมด เดือนนึงๆก็เยอะอยู่ ถ้าเราเป็นผู้ใช้บริการของทรู จ่ายค่าบริการตรงเวลาแบบไม่ขาด ไม่มีเบี้ยว ไม่มีลืม ตลอด 6 เดือน เราก็จะได้บัตร True Card มาครอบครอง

โดยบัตรนี้จะอยู่ภายใต้โปรแกรม TrueYou เป็นบัตร CRM ของทรู เหมือนกับบัตรสมาชิกบริการต่างๆ ก่อนหน้านี้ หลายๆคนก็คงคิดเหมือนผมว่า อยากให้ทรู มีสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเหมือน dtac, AIS แต่บริการทรูนั้นมีเยอะมาก บัตรเลยเพิ่งคลอดออกมาปีนี้

โดยบัตรจะแบ่งชนชั้นกันนิดหน่อย สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้มีสีสัน เลยมีสีแดง กับสีดำ เรียกว่า บัตร True BlackCard และ บัตร True RedCard สำหรับผู้ใช้บริการของทรูรวมทั้งหมด (โทรบ้าน PCT มือถือ จานดาวเทียม เน็ตบ้าน) ถ้ามียอดค่าใช้สินค้าและบริการของทรู ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนดก็จะได้บัตรไปครอง Update เงื่อนไขล่าสุด

โดยบัตร True Black Card ไฮโซ รวยกว่า เพราะต้องมียอดค่าใช้บริการของทรูรวมกันตั้งแต่ 3,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ติดต่อกันนาน 6 เดือน หรือใช้บริการทรูมากกว่า 10 ปี มีค่าใช้บริการต่อเดือน 2 พันบาทขึ้นไป ยังไม่ถึง 3 พันก็ได้ (อย่างน้อยๆก็โทรศัพทบ้านแหล่ะนะ  ที่ใช้ 10 ปีน่ะ)

ส่วน True Red Card ใช้สินค้าและบริการทรูรวมกันเดือนละ 2,000 – 2,999 บาทต่อเดือน ติดต่อกันนาน 6 เดือน หรือใช้บริการมากกว่า 5 ปี อันนี้ค่าบริการ 500 – 1,999 บาทติดต่อกันนาน 6 เดือนก็ได้บัตรแล้ว

หรือใครที่ใช้ Truemove, TruemoveH แบบรายเดือน (แพ็คเกจสำหรับสมาร์ทโฟน) ติดต่อกันนาน 6 เดือนก็ได้บัตรนี้เช่นกัน บัตรแดงนี้จะได้ง่ายสุด เพราะบางบ้าน โทรศัพท์ชื่อพ่อ เน็ตชื่อแม่ มือถือชื่อเราเอง มันก็เลยรวมกันได้ไม่ครบ ถ้าทุกบริการชื่อเราจดทะเบียนเองหมด มีหวังได้บัตร Black แหง แต่สิ่งที่ชอบก็คือ True Card มีประกันอุบัติเหตุให้ผู้ถือบัตรด้วยนะ แต่แน่นอนว่า Black Card ได้ทุนประกันเยอะกว่า

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว บัตร Black ก็ไฮโซกว่าน่ะสิ ใช่แล้ว เพราะเหมือนพวกบัตร Platinum อะไรเทือกนั้น

• บริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง

• บริการสำรองที่จอดรถ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและคอมมูนิตี้มอลล์ กว่า 12 แห่ง

• บริการเครื่องดื่มรับรองฟรี ณ สนามบิน 9 แห่ง

• ประกันอุบัติเหตุ วงเงินคุ้มครองสูงสุด 200,000 บาท

• ชมฟรีทรูวิชั่นส์ HD และช่อง A la carte

• ส่วนลด 50% สำหรับ Wi-Fi Package

• ส่วนลดจากร้านค้า ร้านอาหารมากมาย

อย่าคิดว่ามันเป็นแค่บัตรนะ เพราะ True เขามีบริการการเงินอีเล็คทรอนิคส์ True Money ใช้เติมเงินเข้าไปได้ เพื่อซื้อสินค้าและบริการของทรู เติมเงินได้ที่ ทรู ช้อป ทรูคอฟฟี่ และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติม

บัตร True Card มีอายุ 1 ปี แต่วันที่บนหน้าบัตรจะเป็นวันหมดอายุของกระเป๋าเงิน Touch (คุ้นๆไหมครับ มันคือบริการเดียวกับ Touch SIM นั่นเอง

สิทธิพิเศษ

อย่างที่บอกว่า True Black Card มีอภิสิทธิ์มากกว่า ไฮโซกว่า หรูกว่า เพราะจ่ายเยอะกว่า  ดังนั้นจะมี เลขาส่วนตัว มีที่จอดรถสำรองไว้ให้

ข้อมูลบัตร True Card