เทรนด์ใหม่ของการใช้มือถือ เติม จ่าย โอน แทนเงินสด ผ่าน True Money

วิวัฒนาการของมือถือ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่หน้าจอแบบขาวดำ จนมาถึงหน้าจอสี แล้วขยับมาเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีน ใช้ปากกาสไตลัสจิ้มเพื่อป้อนคำสั่งในการใช้งาน จนมาถึง iPhone ผู้พลิกโฉมนวัตกรรมของการสัมผัสหน้าจอด้วยนิ้วมือ ทำให้การทำงานของมือถือ เปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกโลก รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการเชื่อมต่อ ทำให้การสื่อสาร จาก SMS > MMS > Email จนมาถึงการแช็ทผ่าน MSN > BBM > Fring > Whatsapp และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เติบโตจาก GPRS > EDGE > 3G ส่งผลให้การทำโฆษณา การทำธุรกรรมต่างๆ เริ่้มเข้ามามีบทบาทในการใช้งานมือถือ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์พกพาที่ใช้งานง่าย และพกพาติดตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราสามารถนำโทรศัพท์มือถือมาใช้งานด้านการทำธุรกรรมทางการเงิน การตรวจสอบยอดบัญชีธนาคารผ่านมือถือ จนมาถึงการเติมเงิน จ่ายเงิน โอนเงิน ผ่านมือถือ ได้โดยไม่ต้องไปธนาคาร

 รู้จักกับบริการทางการเงินบนมือถือ

 

บริการทางการเงินบนมือถือ แยกเป็น 2 รูปแบบที่เราเห็นกันก็คือ บริการ อินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ที่นำเอา แอพพลิเคชั่นมาให้เรา โอนเงิน เติมเงิน จ่ายค่าบริการต่างๆ ผ่านมือถือได้โดยผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต แบบนี้เติมเงินมือถือได้ จ่ายค่าบริการต่างๆได้เหมือนกัน Internet Banking บนเว็บ และอีกแบบหนึ่งก็คือ บริการทางการเงินบนมือถือ คือการนำเอา Smart Card สมาร์ทการ์ด มาใช้บนมือถือ ทำให้เกิดบริการที่เรียกว่า Mobile Smart Purse อย่างเช่น True Money ที่มีหลักการคล้ายกับบัตร Smart Card ที่ใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการแทนเงินสด มาอยู่ในรูปแบบของมือถือ ทำให้เราสามารถจ่ายเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการผ่านมือถือได้โดยแทบไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์ พูดแบบเข้าใจง่ายๆก็คือการนำเอาสมาร์ทการ์ดหรือบัตรเงินสด มาไว้บนมือถือนั่นเอง หลักการไม่ได้ยุ่งยากอะไร ไม่ต้องใช้แอพ True Money ใช้งานง่าย แบบที่ใครๆก็ใช้งานได้

 

ต้องยอมรับว่า กระแส Mobile Payment แรงขึ้นมา และสิ่งที่ทำให้คนไทยได้รู้จักกับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือ แบบไม่ต้องใช้เงินสด ผ่านโฆษณา Wellcom M3 ที่ชูจุดเด่น Mobile Purse ในการใช้งานแทนบัตร Smart Purse ได้ที่ 7-11 โดยใช้มือถือแตะที่เครื่องอ่าน Smart Purse เพื่อตัดเงินออกจากซิม Smart Purse

 

Smart Purse คือบัตรเงินสด เหมือนกับการซื้่อบัตรคูปองร้านอาหาร ที่เราเติมเงินแล้วใช้ซื้อสินค้าได้ที่ร้านที่ร่วมรายการ แต่การเป็นบัตร หากกระเป๋าตังค์หาย บัตรก็หายไปด้วย นั่นคือ เงินเราก็หายไปด้วยเช่นกัน แถมไม่สามารถอายัดบัตรได้เหมือนกับบัตรเครดิต ตรงนี้ต้องระวังอย่าเติมเงินในบัตรมากเกินไป แต่ถ้าเป็นมือถือล่ะ เราเติมเงินบนมือถือ เข้าบัญชี True Money ซึ่งใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือทรูมูฟ และบัตรประชาชนของเราแทนเลขบัญชีธนาคาร คือนำเงินมาเติม (ฝาก) ในบัญชี หรือกระเป๋า True Money ก่อน แล้วค่อยเอาเงินตรงนี้ ไปใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการ

True Money เป็นบริการทางการเงินอีเล็คทรอนิคส์ ที่สามารถเติมเงินเข้ากระเป๋าบัญชีทรูมันนี่ นั่นคือเป็นบัญชีที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ทรูมูฟ แล้วนำเงินในบัญชีไปเติมเงิน จ่ายค่าสินค้าและบริการต่างๆได้ ยกตัวอย่าง น้องชายผมที่เติมเงินเข้ากระเป๋า ทรู มันนี่ ไว้ แล้วแบ่งมาเติมเงินมือถือทรูมูฟ ตรงนี้ช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างวินัยในการใช้เงินได้ และหากเกิดเหตุฉุกเฉิน เงินในมือถือหมด ก็ไม่ต้องวิ่งหาร้านที่ขายบัตรเติมเงินกลางดึก ให้เสี่ยงกับการถูกจี้ ปล้น เพราะเติมเงินได้จากบัญชีทรูมันนี่

สนใจดูรายละเอียดที่ http://www.truemoney.co.th/

การใช้งาน True Money นั้นสามารถใช้งานผ่านมือถือ Truemove บนมือถือรุ่นใดก็ได้ ผ่าน USSD โดยกด *876# โทรออก แล้วทำตามเมนูคำสั่ง หรือส่ง SMS ไปที่ 4764014 ผูกกับบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต หรือเติมเงินผ่านบัตรเงินสด True Money วิธีใช้ นอกจากนี้ยังมีบริการ แจ้งเตือนครบกำหนดชำระค่าน้ำ ค่าไฟ

และสามารถโหวตนักล่าฝัน AF8 รายละเอียด http://www.truemoney.co.th/voteaf8.html และ http://www.truemoney.co.th/tmx-voteaf8.html