หงุดหงิด รำคาญ โทรศัพท์พนันออนไลน์ ขายสินเชื่อ เงินกู้ ขายประกัน ใช้ CallApp แอปบล็อกเบอร์ ระบุชื่อคนโทรหา บล็อกเบอร์แปลก ไม่ต้องเสียเวลารับสาย

ทุกวันนี้ เรามักจะคุยโทรศัพท์ผ่านแอป LINE, Messenger หรือแอปแช็ตอื่นๆ แต่พอมีคนโทรหาเบอร์เรา ก็มักจะเป็น คนที่ขายบัตรเครดิต สินเชื่อ ขายประกัน ล่าสุดมีพนันออนไลน์ เงินกู้ เข้ามาแบบถี่ๆ ซึ่งขอออกตัวก่อนว่า เราไม่ได้มีอคติอะไรกับสายโทรเหล่านี้ และในบางครั้งเราก็สนใจบริการเหล่านี้ด้วย แต่เราก็อยากจะรู้ก่อนรับสาย ว่าสายที่โทรหาเราเป็นใคร โดยเฉพาะเบอร์ที่เราไม่รู้จัก ไม่ได้เมมไว้ เพราะบางครั้งเราติดประชุม ติดธุระสำคัญ แต่ดันมีสายคนโทรมาหาแล้วเราไม่รู้จัก พอรับสายกลับเป็นสายที่ไม่ใช่ธุระเร่งด่วนของเรา หรือเสนอเงินกู้ พนันออนไลน์ ที่เราไม่ได้สนใจ ดังนั้นเราก็เลยมองหาแอปบล็อกเบอร์ และระบุชื่อคนโทรหาเรา เพื่อช่วยกรองให้เราสักรอบนึง

หมายเหตุ: บทความนี้เป็น Advertorial ประชาสัมพันธ์แอป CallApp ซึ่งเขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง

callapp บล็อกเบอร์

CallApp เป็นแอปบล็อกเบอร์ ระบุคนโทรหา โดยใช้ฐานข้อมูล Crowdsourcing หมายถึงตัวผู้ใช้ด้วยกันเอง ช่วยกันใส่ข้อมูลเข้าไปในระบบ ให้เรารู้ว่าคนที่เราโทรหาเป็นใคร ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าจะบล็อกเบอร์ หรือจะรับสาย ซึ่งแอปนี้ ปัจจุบัน ตอนที่เขียน รองรับเฉพาะบน Android เท่านั้น ล็อคอินผ่านเบอร์มือถือ Facebook หรือบัญชี Google ดาวน์โหลด CallApp

callapp บล็อกเบอร์

จากการใช้งาน เมื่อติดตั้งแล้ว แอปจะให้เราเลือกว่า จะใช้หน้า SMS ของแอปหรือไม่ หรืออยากจะใช้หน้า Contact ของแอปเอง ซึ่งจะบอกรายละเอียดคนโทรและส่งข้อความหาเรา

callapp block premium

แต่บอกไว้ก่อนว่า แอปนี้ใช้ฟรี แต่มีโฆษณา แต่ถ้าไม่อยากได้โฆษณา ก็จ่ายเงินซื้อแอปเพื่อเอาโฆษณาออก พร้อมฟีเจอร์บล็อกเบอร์ที่เข้มข้นกว่าเดิม พร้อมบันทึกเสียงสนทนาได้ด้วย

callapp บล็อกเบอร์ พรีเมี่ยม

โดยเมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว สามารถใช้งานฟรี แต่ถ้าจ่ายรายเดือน เดือนละ 32 บาท รายปี ปีละ 175 บาท ตกเดือนละ 14.58 บาท หรือจ่ายครั้งเดียวจบ 275 บาทใช้ได้ยาวๆ ก็ถือว่าไม่แพงสำหรับแอปบล็อกเบอร์ ที่บันทึกเสียงสนทนาได้ด้วย

 

นอกจากนี้ ยังแอปยังซื้อแบบพรีเมี่ยม มีวีดีโอริงโทน บันทึกเสียงได้ไม่จำกัด พร้อมซื้อฟีเจอร์เพิ่มเติมได้อีก

callapp บล็อกเบอร์

ฟีเจอร์ของแอป CallApp – ระบุผู้โทร & บล็อกเบอร์

 

callapp บล็อกเบอร์

ฟีเจอร์ของแอป ทำหน้าที่เป็นตัว Caller ของมือถือ Android รับข้อความ SMS กรอง Spam ส่งข้อความหาเบอร์ WhatApp บันทึกสายเสียงสนทนา ทำหน้าจอ VDO Rintones ตอนคนโทรหาเรา และมี Message ID เวลามีสแปมต่างๆ ส่งมาเราก็จะรู้ได้เลย ยิ่งพวก พนันออนไลน์ หวยออนไลน์ หรือสินเชื่อแปลกๆ นี่กรองไว้เลย

callapp เวอร์ชั่นล่าสุด

ข้อดีของ CallApp คือทำให้เรารู้ว่าคนโทรหาเราเป็นใคร โดยตัวแอป มีฐานข้อมูลแบบ Crowdsourcing หมายความว่าหากมีคนขายประกัน บัตรเครดิต หรือก่อกวนความรำคาญ โทรมา ผู้ใช้เนี่ยแหล่ะครับจะเป็นคนส่งข้อมูลผ่านแอป รวบรวมเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ ทำให้เรารู้ว่าใครโทรหาเรา เราควรจะรับสายหรือเปล่า ดังนั้นถ้าเราเจออะไรแปลกๆ ก็ร่วมมือกันรายงานเข้าไปที่แอป ให้คนอื่นๆ ที่ใช้แอปนี้ เห็นว่าเบอร์นี้ก่อกวน แต่พวกนี้เปลี่ยน Sender ไปเรื่อยๆ ก็คงต้องแจ้งกันไปเรื่อยๆ

ผมคุยกับภรรยา ซึ่งเขาจะเมมเบอร์มือถือ Kerry, J&T ต่างๆ ไว้เลย เพราะคนที่ส่งมาให้เราที่คอนโด คือคนเดิม และบางคนแม้จะเปลี่ยนค่ายส่งสินค้า แต่ก็ใช้เบอร์เดิม ทำให้เรารู้ว่า ถ้าเรารับสายไม่ทัน เราควรจะโทรกลับหรือเปล่า อย่างน้อยๆ ก็กรอง ทำให้เรารู้ว่าถ้ามีสายโทรหาเราหลายสาย เราควรจะโทรกลับหาใครก่อนหลัง

ดังนั้นแอปจะใช้ข้อมูลจากคนที่ใช้แอปนี้ ร่วมกันแจ้งข้อมูลครับ พอมีคนโทรหาเรา เบอร์แปลก ก็จะมีแสดงชื่อคนโทรที่มีคนอื่นๆ ใส่ข้อมูลไว้นั่นเอง

แอปมี Caller ID คือบอกรายละเอียดคนโทรหาเรา แจ้ง Social คนที่ติดต่อเรา

callapp บล็อกเบอร์

 

เนื่องจากแอปนี้ รองรับเฉพาะบน Android และผมยังไม่เคยใช้แอปนี้มาก่อน ผมก็เลยลองทำ 2 อย่าง คือ มือถือเครื่องนึง ซื้อแบบเดือนละ 32 บาท เอาโฆษณาออก กับอีกเครื่อง ใช้แบบฟรีไปเลย อยากรู้ว่าเป็นยังไง อย่างแรกคือ

ตัวแอปจะมาแทนตัว Caller หลักของแอป และแทนที่ Message ก็คือ SMS หลักของแอป ถ้าใครใช้ Facebook Messenger อาจจะเจอตัวเลือกที่ทำให้เราใช้แอป Messenger ของ Facebook เป็นแอปหลักในการรับส่งข้อความ

callapp บันทึกเสียงคุยโทรศัพท์

อีกฟีเจอร์นึงที่น่าสนใจคือ การบันทึกเสียงสนทนา อันนี้คิดว่ามีประโยชน์ในการใช้อ้างอิงข้อมูลที่เราพูดคุย โดยเฉพาะการโทรประชุมที่จะต้องจดรายงานการประชุม แต่ไม่แนะนำให้นำเสียงสนทนาที่บันทึกไปเผยแพร่สาธารณะ ควรเคารพและให้เกรียติ ผู้สนทนา และควรแจ้งผู้สนทนา ให้ทราบและยอมรับก่อนบันทึกเสียง

บอกตรงๆ ว่า พวกแอปเหล่านี้ โฆษณาเยอะ และเราก็กังวลว่า แอปนี้ ดีหรือเปล่า มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า แต่แอปนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นแอประบุผู้โทรและบล็อกที่ดีที่สุด โดย TechCrunch แต่จากที่เราใช้มา ทั้งตัวฟรีและเสียเงินก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่อาจจะงงเรื่องตัว Caller ในช่วงแรก แต่ถ้าปรับตัวได้ก็จะชินไปเอง

หลังใช้ CallApp แล้วรู้สึกยังไง

CallApp

ความรู้สึกแรก รู้สึกว่า มันคือตัว SMS, Caller ที่มาแทนตัวเดิมของ Android มันจะเป็นหน้าต่างซ้อนขึ้นมา บอกเราว่าใครโทรหาเรา แบบในภาพ ซึ่งถ้ามีข้อมูลในฐานข้อมูล เราก็รู้ได้เลยว่าใครส่งข้อความมาหาเรา

การ Block เบอร์ สามารถกำหนด Spam List กับ Block List ได้ด้วย

callapp บล็อกเบอร์

ผมลองโทรหาตัวเองอีกเบอร์ ลองบล็อก พบว่า พอโทรหา จะเป็นเสียงสัญญาณสายไม่ว่างไปเลย ส่วนเครื่องที่เรากดบล็อกจะขึ้นว่า มีเบอร์โทรเข้ามาแต่เราบล็อกไปแล้ว

callapp บล็อกเบอร์ เงินกู้ พนันออนไลน์callapp บล็อกเบอร์ เงินกู้ พนันออนไลน์

พอดีมีเบอร์แปลกโทรหา แต่เราไม่ได้รับ ลองกดดูพบว่ามี Facebook เพจให้กดดูด้วย แต่ LINE กดไม่ไป (ในภาพคือจำลองตัวเองโทรหานะครับ ไม่ได้ละเมิดท่านอื่น) นอกจากนี้มี LinkedIN Instagram Twitter อันนี้คิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับเจ้าของ เช่น ร้านอาหาร ใส่ข้อมูลตรงนี้ไว้ เราว่าสะดวกดี แต่รู้สึกไม่ปลอดภัยหากระบบดึงข้อมูลส่วนตัวของเราไปโดยไม่ได้กรอกเอง แต่ถ้ากรอกเองก็ถือว่าเรายินยอม

 

 

เราทดสอบแล้ว พบว่า แอปรู้ข้อมูลเราทุกอย่าง ใช้ค่ายมือถืออะไร (อันนี้ยังไม่แม่น) เกิดวันที่เท่าไหร ภาพเราบนโซเชียล โพสต์ล่าสุดของเรา อันนี้เก่งดี (แต่กลับเป็นภาพวันวานในอดีต เฮ้ยย มาได้ไง ดึงมาแบบเป๊ะๆ)

Block SMS

callapp

หลายคนอยากได้ฟังก์ชั่นนี้มาก เพราะลำพัง SMS ขยะเยอะแยะ ยิ่งมี SMS พนันออนไลน์ เสนอบริการเงินกู้ แต่บอกไว้ก่อนว่า การ Block SMS ขยะอยากจะให้โทร Block ที่ต้นทางจะดีกว่า เพราะแม้จะบล็อกบนมือถือเรา แต่ระบบก็ส่งข้อความหาเราได้ (หมายถึงถ้า SMS นั้นเสียเงิน เราก็แค่บล็อกไม่ให้แสดงผลข้อความ แต่นั่นก็อาจจะเสียเงินแล้วก็ได้) แต่ถ้าจะบล็อก SMS ส่วนบุคคล อันนี้จัดโลด ดูวิธีเปิดฟิลเตอร์ iMessage บน Tiktok ของผมได้เลยครับ

ปิดท้ายด้วยสถิติ การโทร ในภาพคือการจำลองการใช้งาน เพราะหลักๆ เราไม่ได้โทรอะไรบ่อย นอกจากคนในครอบครัว นอกนั้นคุยไลน์และ Messenger ทั้งหมดเลยครับ

callapp แอปบล็อกเบอร์

ถ้าฟีเจอร์ที่ผมชอบคือ การบันทึกเสียงสนทนา แต่ไม่ได้เอาไปปล่อยคลิปที่ไหนนะ เอาไว้เวลาฟัง คุยงาน เอาไว้ย้อนฟังเพื่อให้ทำงานได้ตรงตามที่คุยกันไว้ โดยรวม แอปใช้งานง่าย เข้าใจง่าย เสียดายแค่ใช้ได้เฉพาะบน Android เท่านั้น ดาวน์โหลด CallApp ส่วนราคาซื้อรายปีก็ไม่แพงเลย ส่วนตัว ถ้าอ่านแล้วโหลดมาลองแล้วชอบ เชียร์ให้ซื้อครับ

ภาพหน้าปก ภาพโดย Jan Vašek จาก Pixabay