รีวิว Microsoft Wireless Comfort Desktop 5000 และคำแนะนำในเลือกคีย์บอร์ดและเม้าส์ ให้เหมาะกับสรีระ เพื่อลดอาการปวดข้อมือ
โดยปกติแล้ว เวลาเราซื้อคอมพิวเตอร์พีซี เรามักจะมองข้ามคีย์บอร์ด และเม้าส์ คิดว่าอันละร้อยกว่าบาท สองร้อยกว่าบาทก็พอแล้ว แต่เมื่อเราใช้งานเป็นระยะเวลานานติดต่อกันหลายชั่วโมง อาจจะเกิดอาการปวดเมื่อยข้อมือได้ การเลือกคีย์บอร์ดและเม้าส์ที่ถูกหลักสรีระจึงจำเป็นสำหรับคนที่ต้องพิมพ์งานเยอะๆแบบผม
หลังจากที่ผมใช้คีย์บอร์ด และเม้าส์มาหลายปี ก็มีความคิดว่า เราควรจะลงทุนกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน อย่างคีย์บอร์ด และเม้าส์ ซึ่งปกติ ผมเลือกเม้าส์ราคา 800 – 1500 บาท เพื่อความสบายมือ แต่คีย์บอร์ด ยังเลือกใช้อันละ 2 ร้อยบาท ก็เลยเกิดความคิดที่ว่า ถ้าเราใช้คอมพิวเตอร์พีซี เป็นระยะเวลานานๆหลายชั่วโมงติดต่อกัน เราควรจะเลือกคีย์บอร์ด ให้เหมาะสมกับสรีระของเรา แทนการเลือกคีย์บอร์ดทั่วไป ที่อาจจะนำอาการเจ็บข้อมือ มาให้เรา หากเราใช้ไม่ถูกหลักสรีระ เรียกว่ายอมจ่ายแพง เพื่อลงทุนระยะยาวไปเลยเพื่อสุขภาพของเรา
ยอมรับตามตรงว่า ผมเองก็ไม่เคยลงทุนซื้อคีย์บอร์ด + เม้าส์ ราคา 2 พันบาทมาก่อน เพราะก่อนหน้านี้ เอาใจใส่กับเม้าส์ มากกว่า ยอมซื้อเม้าส์ราคาหลายร้อยบาท (เต็มที่ก็พันบาท) เพื่อใช้งานเพราะเน้นใช้อ่านงานเว็บไซต์ แต่เมื่อถึงยุคของการสร้างคอนเทนต์ การเป็น blogger จะต้องเขียนเนื้อหาต่างๆเยอะมาก ดังนั้นการลงทุนกับคีย์บอร์ด จึงเป็นเรื่องที่ผมเห็นความสำคัญ ว่าเราควรจะลงทุน เพื่อการทำงาน เพื่อสุขภาพของเราในระยะยาวด้วย
คีย์บอร์ดที่ผมใช้ตอนนี้ อาจจะไม่ใช่รุ่นใหม่ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการเป็นคีย์บอร์ดและเม้าส์แบบไร้สาย ที่ใช้ตัวรับส่งสัญญาณตัวเดียวกันทั้งคีย์บอร์ดและเม้าส์
ผมเลือกใช้ คีย์บอร์ดไร้สายของ Microsoft รุ่น Wireless Comfort Desktop 5000 ซึ่งจริงๆรุ่นนี้ วางจำหน่ายมานานแล้ว แต่ผมเพิ่งไปซื้อมาเพราะคิดว่าเหมาะสม และกะว่าจะใช้กับพีซี ดังนั้นถ้าได้แบบไร้สายก็โอเค แบบมีสายก็ใช้ได้
ผมคิดสเปคคร่าวๆ ของคีย์บอร์ดและเม้าส์คือ มองหาคีย์บอร์ดแบบ Curve ที่มีแท่นพักข้อมือ เม้าส์ที่จับสบายมือ (จริงจะหารุ่นที่คีย์บอร์ดแยก แบ่งครึ่งกัน แต่ไม่มีขายแล้ว) แบบมีสาย หรือไร้สายก็ได้
จุดเด่นหลักๆของ Wireless Comfort Desktop 5000 คือการออกแบบคีย์บอร์ดโดยวางปุ่มตัวอักษรเป็น Curve ทำให้ข้อมือเราไม่ต้องบีบเกร็ง การใช้คีย์บอร์ดแบบโค้งเว้า ทำให้เราจัดท่าข้อมือในการพิมพ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งจะจัดตำแหน่งแขน ข้อมือ และมือ วางสบาย
ความโค้งเว้าของมันสวยจริงๆ ตอนผมซื้อมา ไม่ได้รีวิวทันที แต่ผมใช้จริงไปร่วมๆ 3 เดือนก่อน ตอนนี้แบตยังไม่หมดเลย ทนมากๆ
การออกแบบสวยดี มีโค้ง มีเว้า ที่รองรับสรีระข้อมือเรา พิมพ์สบายไม่เมื่อยมือเลย สะดวกจริงๆ
การออกแบบปุ่ม ให้ดูใกล้ๆ มันออกแบบมาได้มีโค้งมีเว้าแบบที่ลาดไปกับนิ้วเราเลย
นอกจากนี้ ยังมี Taskbar Favorite คือปุ่มพิเศษบนคีย์บอร์ด ที่ผมเองก็ยอมรับตามตรงว่าไม่คุ้นเคยกับปุ่มพวกนี้เท่าไหรเพราะมักใช้เม้าส์คลิกเองประจำ ส่วนเมาส์ ใช้การตรวจจับที่แม่นยำด้วย Microsoft BlueTrack Technology บนทุกพื้นผิว
เม้าส์จะมีกริบให้เราจับได้ถนัดมือ ผมเป็นคนมือไม่ได้ใหญ่มาก แต่ชอบเม้าส์ใหญ่ๆ เม้าส์เล็กๆ จับแล้วเมื่อยมือ
คีย์บอร์ดมีปุ่มมัลติมีเดียและฟังก์ชั่นพิเศษมาให้ด้วย (ใช้งานร่วมกับไดร์เวอร์)
อ้อ ปุ่มพวกนี้ จะต้องลงไดร์เวอร์ด้วย
ปรับระดับความสูง ลาดชัน คีย์บอร์ดได้
ถ่าน 2 ก้อนนี้ ใช้ตั้งแต่เดือน 5 / 56 ตอนนี้ยังใช้ได้แบบไม่เปลืองถ่าน (เพิ่งมาเขียนเดือนสิงหาคม เพราะรีวิวระยะเวลาของถ่านไปด้วย)
จากที่ได้ใช้งานร่วมๆ 3 เดือนกว่า ชอบและประทับใจ คุ้มค่ากับการลงทุนคีย์บอร์ด + เม้าส์ ราคา 2 พัน 8 ใช้ยาวๆ ได้นานเลยครับ ใครที่ใช้โน้ตบุ๊ก ก็แนะนำตัวนี้ครับ สะดวกดี ทำให้เราพิมพ์งานได้สะดวกกว่าใช้คีย์บอร์ดโน้ตบุ๊ก ใช้นานๆ ไม่เมื่อยมือด้วยครับ
One thought on “รีวิว Microsoft Wireless Comfort Desktop 5000 และคำแนะนำในเลือกคีย์บอร์ดและเม้าส์ ให้เหมาะกับสรีระ เพื่อลดอาการปวดข้อมือ”