มองเทรนด์เทคโนโลยีในงาน Commart X’Gen Thailand 2011 ฉบับ Buyer Guide

ทุกครั้งที่ผมเดินชมงาน Commart ผมไม่ได้ดู Pretty แต่อาศัยดูรูปชาวบ้านเค้าถ่าย สิ่งที่ผมสนใจก็คือ เทรนด์การตลาดว่าคนกำลังสนใจสินค้าไอทีอย่างไร มีแนวโน้มอย่างไร ดังนั้น ภาพประกอบ น้อยมาก จริงๆแล้วผมทวิตรายงานไปเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม จึงนำมาใส่ใน Blog อีกครั้ง และทุกครั้งที่ผมเดินในงาน ผมก็จะเก็บโบรชัวร์มาดู เทรนด์ของเทคโนโลยีในตอนนี้

งาน Commart รอบนี้ ไม่ได้มีอะไรใหม่ อาจจะเป็นเพราะ ต้น Q3 ซึ่งปกติ ไม่มีอะไรมาก ตอนนี้มี OS X Lion จาก Apple ในส่วนของ iStudio ก็มีการโละ ผลิตภัณฑ์ Apple ตัวเก่า และพร้อมขายตัวใหม่ งานนี้ ส่วนของ มือถือ ไม่ได้หวือหวาแบรอบที่แล้ว ไม่มี บูธ HTC, ViewSonic แต่ที่น่าสนใจในงานคือ การขาย BlackBerry Playbook ของหลายๆค่าย อย่าง Truemove ก็ขาย BlackBerry Playbook ในวันที่ 22 กรกฏาคม มีรุ่น Wi-Fi 16GB และ 32GB ราคา 16,900 และ 18,900 ตามลำดับ

ส่วน USB Flash Drive นั้นผมได้ไปเดินดูราคาตลาด และซื้อให้คุณแฟนด้วย นั่นทำให้ผมได้สำรวจราคาและเดินดู UBS Flash Drive ทั่วงาน แบบ ทุกร้าน ได้ข้อสรุปว่า ในงาน Commart นี้ Flash Drive ของแท้ ของปลอม มีเยอะ ให้ระวังและพิจารณาให้ดี ที่น่าสนใจคือ ราคาของ USB Flash Drive (Handy Drive, USB Drive) ตอนนี้ ถ้ามองหา จะอยู่ที่ 4GB เป็นอย่างต่ำ ส่วน 2GB พอมีบ้าง แต่ราคาไม่ต่างกันมาก เพราะตอนนี้ 4GB ราคาในระดับ 250-300 บาท ส่วน 8GB ก็อยู่ในช่วง 350 จนถึง 4 ร้อยกว่า ที่น่าสนใจคือ Flash Drive 16GB ราคาไม่แพงแล้วคือ 5 – 6 ร้อยบาท + – แต่อยากจะให้มองว่า ถ้าเราซื้อ Flash Drive ความจุเยอะ อยากจะให้ดูสเปคให้เป็นคือ ราคาแพงหน่อย หากเป็น 6 – 8 ร้อย ความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลจะอยู่ที่ Read-Write Speed 30 : 8 MB/Sec เวลาอ่านก็บอกคนขายว่า Read/Write 30/8 ก็ได้ ถ้าไม่ถาม ไม่ท้วง อาจจะได้ความเร็วที่ไม่ใช่ Hi-Speed คือ Read-Write Speed 10 : 5 MB/Sec อันนี้ต้องขอบคุณ ร้าน Banana IT ที่บอกข้อมูลดีมาก ว่าให้เลือกอันที่เป็น Hi-Speed ตรงนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ และจะเอาถูกๆ ต่อมาคือประเด็นของแท้ ของปลอม ผมมองว่า แต่ละค่ายจะมี Distributor ผู้นำเข้าคือ Com7, Dcom, Synnex, Silicon Data พวกนี้จะเป็นคนนำเข้า ดังนั้นซื้อจาก JIB, Speed Computer, Banana IT, Hardware House จะค่อนข้างมั่นใจว่าได้ของแท้ แต่ก็จะต้องสังเกตสติกเกอร์รับประกันด้วย

และที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ Zone C ชั้นล่าง ที่มีร้าน Accessories มาขายแบบ ตู้กระจก อันนี้สังเกตง่ายเลย ว่าเป็น “ตู้กระจก” (พวก Banana IT, Hardware House จะแขวน ไม่ใส่ตู้กระจก) มีทั้ง Sony ทั้งตุ๊กตา หลายแบบ สวยๆทั้งนั้น ผมไม่แนะนำนะครับ เพราะไม่รู้ว่าใครนำเข้า เสียจะส่งเคลมที่ไหน อย่าไปเชื่อประกันร้าน เพราะที่ผมซื้อ Kingston ผมไปเคลมได้ที่ Synnex ในระยะเวลาประกัน 5 ปี จริงๆมันไม่ถึงหรอก ปีหน้า 8GB อาจจะกลายเป็นมาตรฐานเหลือ 300 บาทก็เป็นได้ ตรงนี้ให้สังเกตและอย่าเอาแค่ คำว่า ของถูก มาบังตา อาจจะได้ Kingstom มาชื่นชมหน้าท่านเปา หรือได้ความจุน้อยกว่าที่เสียเงินไป แถมตามหาร้านก็หาไม่เจอแล้ว ลายพวกตุ๊กตาก็สวยดี แต่ถามว่าประกันล่ะ เสียทำยังไง ข้อมูลเราสำคัญกว่าเยอะ เอาแบบประโยชน์ใช้สอยจะดีกว่า อ้อ ที่สำคัญ จำหน้าคนขายไว้ ขอนามบัตร ขอใบเสร็จไว้ด้วยอย่าพลาดเชียว

ส่วนเทรนด์ตอนนี้ที่น่าสนใจคือ Network ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น NAS Storage, การจัดการเครือข่ายในบ้าน อุปกรณ์ network เพียบ แล้วก็มีพวก HD Player ที่ใส่ Harddisk ไว้เก็บหนังเปิดดูจากจอทีวี ในงานนี้จึงเน้นจอใหญ่ จอ HD จอ LED คมชัด มีเทรนด์ของ Internet TV เข้ามา ส่วนจอมอนิเตอร์ก็เข้ามาอยู่ในช่วงขนาดจอ 22 – 24 นิ้ว กันแล้ว เพราะเราใช้หลายโปรแกรมพร้อมกัน

จาก Content Creation การสร้าง Contents ได้เอง ทำให้ Accessories นั้นได้รับความสนใจ ทั้งกล้อง Webcam คุย Skype, MSN, Gtlak, Hungouts กล้องดิจิตอล กล้องวีดีโอ มือถือ สมาร์ทโฟน ถ่ายวีดีโอได้ ตัดต่อง่าย อัพโหลดสะดวก ส่วนการเก็บ Contents พวก VDO, Clip ต่างๆ External Harddisk ความจุ 500GB กลายมาเป็นมาตรฐาน เราเริ่มไม่เห็น HDD 320GB แล้ว ยิ่ง 250GB ที่ผมเคยมียิ่งหายาก ตอนนี้ HDD 500GB อยู่ในราคาประมาณ 1590 – 1800 จนไปถึงเกือบ 2 พัน ลองดูเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ ตอนนี้มี USB 3.0 เยอะขึ้น Notebook, PC ส่วนใหญ่ รุ่นใหม่ๆก็มี USB 3.0 กันแล้วเพราะทำให้เราเห็นว่า Contents ใหญ่ขึ้น คนบริโภคความจุ HDD มากขึ้น อาจจะเป็นเพราะ Flash Drive ไม่เพียงพอเสียแล้วจึงซื้อ External HDD กันเยอะมาก

เทรนด์อีกอย่างที่น่ามองก็คือ การทำงานแบบ Mobile Working เพราะตอนนี้ ไม่มีใครถามแล้วว่า AirCard คืออะไร มีขายเยอะขึ้น แล้วก็มี Mi-Fi ขายด้วย ตรงนี้จะเห็นได้ว่า การทำงานนอกสถานที่เราใช้เน็ตจากซิมมือถือด้วย ถ้าใครถามผมว่าซื้อ Air Card หรือ Mi-Fi ดี ผมจะบอกว่า AirCard ต้องเสียบ USB ใช้ได้แต่ Notebook, Netbook และ Tablet บางรุ่นที่มีพอร์ต USB แต่ถ้าเป็น Mi-Fi นั้นจะใช้งานได้ทั้ง PC (ผ่านสาย USB) หรือใช้ USB Wi-Fi  ต่อเชื่อม ใช้งานบน Notebook, Netbook, Tablet, SmartPhone, MusicPlayer ได้หมด 5 อุปกรณ์พร้อมๆกัน ดังนั้นใช้ Mi-Fi จะสะดวกกว่า AirCard อีก

ส่วน Tablet อย่าง iPad2 ก็ขายในร้าน iStudio เป็นทางการ ไม่ใช่เครื่องหิ้ว แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องซื้อพร้อมอุปกรณ์เสริมจากทางร้านเท่านั้น ตรงนี้มีเงื่อนไขนิดหน่อย แนะนำของ SPVi มีให้เลือกเยอะมากใน Zone Balloom

นอกจากนี้ Netbook ก็ยังได้รับความนิยม และมีหลายคนถามว่า Netbook กับ Tablet เลือกอะไรดี ตอนนี้ Netbook ราคาต่ำๆก็ 7,990 เทียบกับ Tablet Wi-Fi หลายๆตัว จริงๆมันคนละ OS กันเลยและการใช้งานคนละแบบ แต่ก็ถือว่า ราคาถูกลงเยอะมาก แต่น้ำหนักยังไงเอาเบาๆยกให้ Tablet ดีกว่า Netbook แน่ๆ

ตอนนี้ Notebook ราคา สามหมื่น (รวมแวดแล้ว) ก็ได้ i7 Ram 4GB HDD 500GB เป็นมาตรฐานไปแล้ว ถือว่าราคาไม่แพงเลย ถ้างบไม่เยอะ ไม่เกิน 2 หมื่น (ถ้ารวมแวดก็เกินนิดๆ) ก็ได้ Intel Core i3 ไปครองแล้ว คอมพ์ประกอบนั้นก็มีราคาไม่แพงแล้ว i3, i5 ก็จัดไป ขอให้ใช้ Windows แท้ Office แท้เป็นพอ ราคาไม่ได้แพงด้วย

สรุปงาน: น่าไปไหม

ถ้าไม่ซื้อ External HDD, Flash Drive อย่างเดียวไม่คุ้ม ถ้าไปสอย Notebook Netbook ก็น่าสนใจ เพราะผมเห็นชาวออฟฟิศ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินไปซื้อ Notebook, Netbook แล้วเดินกลับเข้าออฟฟิศ แบบนี้ก็สะดวกดี มาตอนกลางวันคนไม่เยอะ เทรนด์ตอนนี้คือ Accessories พวก Portable Speaker, iPod Dock ราคาถูกลงเรื่องๆ ไม่ถึงพันก็ได้ตัว Dock พร้อมลำโพง นาฬิกาปลุกไปใช้แล้ว คุณภาพเสียงก็ค่อยว่ากันแล้วแต่คนชอบ ใครอยากได้จอก็มีให้เลือกเยอะอยู่ ถ้าไปเดินชิวๆก็ไม่มีอะไรมาก มีสมาร์ทโฟนก็แค่ Acer ส่วน HTC ก็ไม่ได้เน้น ไปดูจากบูธผู้ให้บริการก็ได้ มีครบหมด Dtac Truemove, AIS พวก Accessories ตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงทองเลย แล้วก็มีพวก Accessories Apple ที่ไม่ใช่ตรา Apple ลดราคา แล้วก็มีโละอยู่บ้างเหมือนกัน จริงๆแล้ว ลองถามตัวเองดูครับว่า สนใจอะไร ไปเดินเพราะอะไร ถ้าไม่ได้อะไรมาก ไปเดิน IT Mall, Pantip เอาก็ได้ สบายกว่าเยอะ แต่บางร้านปิดร้านมาออกงาน Commart ก็เท่านั้นเอง