ธรรมชาติเอาคืน

ยังจำตอนที่เรียนสังคมได้ไหม???? การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ธรรมชาติเสื่อมโทรม ทำให้โลกร้อนขึ้น ทำให้เมื่อมีภัยพิบัติไม่มีต้นไม้ช่วยต้านแรงลม แรงน้ำ จึงเกิดความเสียหายมากอย่างประเมินค่าไม่ได้
 
ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ประสบภัยธรรมชาตืแผ่นดินไหว หลายครั้งที่เกิดภัยพิบัติ เราอาจคิดว่าเป็นภัยธรรมชาติ มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ก็จริงอยู่ แต่ผลกระทบไม่น่าจะมากมายขนาดนี้ ไม่น่าจะสร้างความเสียหายมากขนาดนี้หากว่าเรายังมีต้นไม้ที่เขียวชอุ่มอยู่ หากว่าเรายังมีทุ่งหญ้าเขียวขจีเหมือนสมัยก่อน…
 
บัดนี้..ภัยธรรมชาติต่างๆได้คร่าชีวิตผู้คนมากมาย จากเหตุการณ์สึนามิ ทำให้เห็นได้ว่า ธรรมชาติลงโทษมนุษย์ที่ได้ทำกรรม ได้ตัดไม้ทำลายป่า ตอนที่เรียนสังคม พวกเราเคยคิดกันบ้างไหมว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ จะเกิดสึนามี โลกจะร้อนขึ้น ฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล หน้าหนาวก็หนาวเพียงช่วงเดียว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ ความสมดึลแห่งธรรมชาติถูกทำลายลงจนหมดสิ้นแล้ว … ถึงเวลาแล้วจะมนุษย์จะต้องรับกรรมจากสิ่งที่ทำลงไป การลงโทษจากธรรมชาตินั้นใหญ่หลวงนัก ธรรมชาติให้ความสุขกับทุกคน แต่เมื่อทุกคนทำลายธรรมชาติ ทำร้ายผื่นป่าที่อุดมสมบูรณ์แล้ว แน่นอนว่าธรรมชาติไม่เคยปราณีใคร… 
 
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตึก อาคารสูง นิคมอุตสาหกรรมต่างๆได้ถูกสร้างขึ้น บ้านพักอาศัยของประชาชนมีมากขึ้น ทำให้ธรรมชาติหาได้น้อยเต็มที หากเราจะเห็นต้นไม้ ใบไม้เขียวขจี ในกรุงเทพหาได้สักกี่แห่ง ถ้าไม่ใช่สวนสาธารณะ
 
สิ่งต่างๆที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ได้ถูกมนุษย์ทำลายไปหมดแล้ว เพื่อสร้างบ้านเรือน สร้างห้างสรรพสินค้า ทำให้เวลาเกิดภัยต่างๆ ไม่มีต้นไม้ช่วยต้านแรงลม แรงน้ำที่ไหลบ่าเข้ามาได้เลย สภาพของเมืองที่จมใต้น้ำจึงเห็นได้ทุกวันนี้
 
เรามาร่วมกันรักษ์ประเทศ รักษ์ธรรมชาติของเรากันเถอะ
 
อย่าให้เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นกับเราและลูกหลาน รวมถึงคนที่เรารักเลย
 
อย่าให้บทเรียนวิชาสังคมกลายเป็นขยะเลย ทบทวนสิ่งที่เรียนมา แล้วลองมองให้เข้ากับยุคปัจจุบันได้แล้ว ว่าธรรมชาติเข้าใจมนุษย์แค่ไหน ไฉนเหตุใดมนุษย์จึงไม่เข้าใจธรรมชาติ ทำไมมนุษย์จึงทำลายธรรมชาติ เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง การลักลอบค้าไม้เถื่อน การตัดไม้ทำลายป่า หยุดทำลายและทำร้ายธรรมชาติซะทีเถอะ