September 4, 2025
เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพ

เปิดวิสัยทัศน์และการพัฒนา สู่การสร้างเมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ

เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งกรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่รถไม่ติด น้ำไม่ท่วม เดินทางสะดวก ประหยัดพลังงาน ปลอดภัยต่อสุขภาพ จะดีแค่ไหน ? ความฝันนี้อาจไม่ได้ไกลเกินเอื้อม เพราะ “เมืองอัจฉริยะ” หรือ Smart City กำลังกลายเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงการสรรค์สร้างเมืองอัจฉริยะในกรุงเทพฯ เองด้วย


แต่คำว่าเมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ จะไม่เกิดขึ้นจากแค่การติดตั้งระบบไอที หรือเปลี่ยนป้ายให้ดูทันสมัย หากแต่คือการสร้างระบบเมืองที่ “เข้าใจประชาชน” และใช้ข้อมูล (Data) กับเทคโนโลยี (Technology) เป็นเครื่องมือบริหารจัดการเมืองให้ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ

1. ระบบขนส่งอัจฉริยะ: พื้นฐานของเมืองที่เชื่อมโยง

หนึ่งในหัวใจของเมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ คือการทำให้การเดินทางลื่นไหล ลดเวลาติดบนถนน ด้วยการใช้ IoT (Internet of Things) จัดการจราจรแบบเรียลไทม์ การใช้ AI คำนวณเวลารอรถสาธารณะ พร้อมเชื่อมต่อระบบ MRT, BTS, รถเมล์ EV และทางเดินเท้าอย่างไร้รอยต่อ สิ่งนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดคาร์บอน แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจด้วย เพราะเวลาคือทรัพยากรที่สำคัญ

2. พลังงานสะอาด: เปลี่ยนเมืองให้ยั่งยืน

เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ ยังรวมถึงการเปลี่ยนผ่านพลังงานจากฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาด เช่น โซลาร์เซลล์บนอาคารราชการ ระบบอาคารประหยัดพลังงาน (Smart Building) ไปจนถึงการใช้รถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับสถานีชาร์จที่เข้าถึงได้ง่าย เป้าหมายคือการลดมลพิษ ลดค่าใช้จ่าย และสร้างเมืองที่อยู่แล้ว “เย็น” ทั้งในเชิงอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อม

3. การบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ: ป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก

กรุงเทพฯ เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในหลายพื้นที่ การออกแบบระบบระบายน้ำโดยใช้เทคโนโลยี เช่น เซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับน้ำ กล้องวงจรปิดในท่อระบายน้ำ และระบบเตือนภัยล่วงหน้า ล้วนเป็นส่วนสำคัญของเมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ ที่ช่วยให้เมืองตอบสนองต่อภัยธรรมชาติได้เร็วขึ้น พร้อมกับลดค่าเสียหายจากการซ่อมบำรุงที่ไม่จำเป็น

4. การใช้ Big Data เพื่อการวางแผนเมือง

การออกแบบเมืองในอดีตอิงจากสถิติทั่วไป แต่ในวันนี้ เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ ใช้ Big Data จากแหล่งต่าง ๆ เช่น การจราจร การใช้ไฟฟ้า ปริมาณขยะ ไปจนถึงเสียงสะท้อนจากโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าใจ “พฤติกรรมจริง” ของคนเมือง แล้วจึงวางผังเมือง บริหารงบประมาณ และออกนโยบายได้อย่างแม่นยำ

5. สร้างระบบเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม

ไม่มีเมืองอัจฉริยะใดจะสมบูรณ์ได้หากขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ  จึงต้องออกแบบระบบที่ “ฟัง” ผู้คน เช่น การเปิด Open Data ให้คนทั่วไปเข้าถึงข้อมูล การเปิดแอปพลิเคชันให้รายงานปัญหาในพื้นที่ หรือแม้แต่การให้เอกชนร่วมเสนอไอเดียผ่าน Hackathon เมืองจึงจะเติบโตอย่างมีทิศทางร่วมกัน

เมืองอัจฉริยะ กรุงเทพฯ ไม่ได้หมายถึงเมืองที่มีแต่เทคโนโลยีล้ำสมัย หากแต่เป็นเมืองที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับ “คุณภาพชีวิต” ของคนจริง ๆ บนพื้นฐานของความยั่งยืน ความโปร่งใส และความเท่าเทียม การพัฒนาเมืองจึงไม่ใช่แค่หน้าที่ของภาครัฐอีกต่อไป แต่คือภารกิจร่วมของทุกคนที่มี “หัวใจอยากเห็นเมืองดีขึ้น”

yokekung

สนใจงานเขียน มาตั้งแต่ อ่านนิตยสาร จนได้เขียนในนิตยสารคอมพิวเตอร์ มือถือ จนมาเป็น Blogger เขียนบนออนไลน์ สนใจมือถือ สมาร์ทโฟน การตลาดออนไลน์ ชอบ Social Media อยู่กับโลกสังคมออนไลน์ 20 ชั่วโมงต่อวัน ปัจจุบัน เป็น Content Editor เว็บไซต์ ADSLThailand.com, ทำวีดีโอบน YouTube YokekungWorld ติดตามได้ที่ Twitter Facebook Instagram ทุกบริการใช้ชื่อ yokekung

View all posts by yokekung →

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save