ในยุคที่ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การหันมาพึ่งพาพลังงานสะอาดอย่างพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือโซลาร์รูฟ จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทั้งที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจ แต่คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยก่อนตัดสินใจคือ การติดตั้งโซลาร์รูฟ ราคาเท่าไรและจะคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวหรือไม่ ? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการลงทุน เพื่อให้สามารถประเมินความคุ้มค่าได้อย่างแม่นยำกัน
ต้นทุนการติดตั้งโซลาร์รูฟ ราคาเท่าไร ลงทุนแค่ไหนถึงจะพอ ?
ราคาของระบบโซลาร์รูฟไม่ได้มีราคาเดียวตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะขนาดของระบบ (หน่วยเป็นกิโลวัตต์ หรือ kW) ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ยิ่งขนาดใหญ่เท่าไหร่ ราคาต่อกิโลวัตต์จะยิ่งถูกลง โดยราคาตลาดในปัจจุบันสำหรับระบบที่อยู่อาศัยและอาคารขนาดเล็กจะอยู่ในช่วงดังนี้:
- ระบบขนาด 3 kW : เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยขนาดเล็ก-กลาง ที่มีค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 2,000-3,000 บาทต่อเดือน โดยการติดตั้งโซลาร์รูฟจะมีราคาประมาณ 120,000 – 150,000 บาท
- ระบบขนาด 5 kW : เหมาะสำหรับบ้านขนาดกลาง-ใหญ่ ที่มีค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 3,000-5,000 บาทต่อเดือน โดยการติดตั้งโซลาร์รูฟจะมีราคาประมาณ 180,000 – 220,000 บาท
- ระบบขนาด 10 kW ขึ้นไป : เหมาะสำหรับบ้านขนาดใหญ่ หรือธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ที่มีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยมากกว่า 5,000 บาทต่อเดือน โดยการติดตั้งโซลาร์รูฟจะมีราคาสูงขึ้นตามขนาด แต่จะมีราคาต่อกิโลวัตต์ที่คุ้มค่ากว่า เช่น อาจเริ่มต้นที่ 350,000 บาท
นอกจากขนาดแล้ว ราคาในการติดตั้งโซลาร์รูฟยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น คุณภาพของอุปกรณ์ ความซับซ้อนของหลังคาที่ติดตั้ง รวมถึงค่าบริการติดตั้งจากบริษัทผู้ให้บริการ ซึ่งแต่ละปัจจัยล้วนส่งผลต่อความคงทนและประสิทธิภาพของระบบในระยะยาว
พิจารณาผลตอบแทน คุ้มทุนในกี่ปี ?
การลงทุนในโซลาร์รูฟนั้นเป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนชัดเจนในรูปของการประหยัดค่าไฟฟ้า ซึ่งสามารถนำมาคำนวณระยะเวลาคืนทุน (Payback Period) ได้อย่างแม่นยำ โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาคืนทุนของระบบโซลาร์รูฟในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 5-7 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
- ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย : หากค่าไฟฟ้าในพื้นที่ของคุณสูง ระยะเวลาคืนทุนก็จะสั้นลง
- ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน : ยิ่งใช้ไฟฟ้ามากในช่วงกลางวันมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งประหยัดค่าไฟฟ้าจากโซลาร์ได้มากขึ้นเท่านั้น และทำให้คืนทุนได้เร็วขึ้น
- ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์ : แผงโซลาร์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า ทำให้การประหยัดค่าไฟฟ้าสูงขึ้น และคืนทุนได้เร็วขึ้นตามลำดับ
นอกจากนี้ การเลือกติดตั้งโซลาร์รูฟในราคาที่เหมาะสมยังช่วยให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสูงสุดอีกด้วย เพราะเมื่อคืนทุนแล้ว ระบบโซลาร์รูฟจะยังคงผลิตไฟฟ้าฟรีไปอีกนานกว่า 20 ปี ซึ่งนับเป็นกำไรที่ชัดเจนและจับต้องได้
การตัดสินใจติดตั้งโซลาร์รูฟในวันนี้คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับบ้านและธุรกิจของคุณได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การประเมินความคุ้มค่าอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนหลังคาบ้านของคุณให้เป็นแหล่งผลิตพลังงานสะอาดที่น่าเชื่อถือ