ผมได้มีโอกาสทดลองช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านบริการออนไลน์ของ Big C ให้บริการที่ http://shoppingonline.bigc.co.th สมัครง่ายมาก เพียงแค่มีอีเมล์เท่านั้น แล้วลองสั่งสินค้าดู มีประสบการณ์จะบอกเล่าให้ติดตาม ขอบอกเล่าเป็น Bullet แล้วกันนะครับ
เหตุผลที่ผมช้อปปิ้งออนไลน์
– เลิกงาน 18.00น. กว่าจะถึงห้างก็ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะหาร้านทานข้าว แวะซื้อของซุปเปอร์ ห้างก็ปิดแล้ว ซื้อไม่ทัน
– ไม่มีรถ จะซื้ออาหารสุนัข 20 กิโลกรัม ซื้อหลายๆถุง ก็แบกขึ้นมอเตอร์ไซต์รับจ้างไม่ไหว
– ซื้อของเยอะๆ ขึ้นแท็กซี่ก็เปลืองค่ารถ จึงอาศัยไปทานข้าวแล้วซื้อของเข้าบ้านด้วยเลยทีเดียว แต่เจอปัญหาแบบข้างบน
– ไม่สะดวกไปห้าง จะไปตอนวันหยุดก็มีเวลาแค่วันอาทิตย์วันเดียว คนก็เยอะ แถมยังไม่มีรถขนของเวลาซื้อสินค้าครั้งละมากๆ
ทำไมต้องช้อปที่ Big C
– ก่อนจะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากห้างไหน แนะนำให้ตรวจสอบก่อน ว่าพื้นที่ที่เราจะให้จัดส่ง อยู่ในรัศมีการส่งสินค้าหรือไม่ สำหรับผม จากการตรวจสอบ รัศมีห้างใกล้บ้านคือบิ๊กซี ส่วนโฮมเฟรชมาร์ทนั้นใกล้มาก แต่ไม่มีบริการออนไลน์ ส่วนท็อปออนไลน์ เท่าที่ดูตั้งอยู่ไกลกว่า จึงเลือกซื้อที่บิ๊กซี ไม่ใช่ว่ารักห้างไหนจะซื้อได้นะครับ เพราะเราต้องดูก่อนว่า บ้านหรือสถานที่ที่เราจะให้ส่งของนั้น อยู่ในรัศมีการจัดส่งของเขาหรือเปล่า
– ถ้าเราไม่ต้องการให้จัดส่งสินค้าที่บ้าน ก็สามารถไปรับสินค้าที่ห้างได้ โดยจะมีคนจัดของใส่ถุงให้เสร็จสรรพ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันคือ สั่งไว้ช่วงเที่ยง เลิกงานก็แวะไปรับสินค้าตามที่สั่งไว้ ง่ายและสะดวกดี
ข้อดีของการช้อปปิ้งออนไลน์
– เลือกช้อปได้เหมือนเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้า ตอนนั้นผมช้อปกับแฟนตอน 5 ทุ่ม เพราะเพิ่งจะทำธุระเสร็จ แล้วกดสั่งซื้อไว้
– ช้อปได้ 24 ชั่วโมงผ่านเว็บไซต์ แต่ถ้าต้องการให้ส่งสินค้าในวันนั้นเลย ต้องสั่งก่อน 4 โมงครึ่ง ถ้าสั่งหลังสี่โมงครึ่ง จะได้รับสินค้าในวันถัดไป (ตามเงื่อนไขของบิ๊กซี) แต่ ลองไล่อ่านประสบการณ์จริงจากผมในช่วงท้ายๆบล็อกก่อน
– ช้อปขั้นต่ำ 500 บาท ถ้าช้อปถึง 1,500 บาท ส่งฟรี แต่ถ้าช้อปเกิน 500 แตไม่ถึง 1,500 บาท ต้องไปรับที่สาขาที่ระบุ
– ชำระเงินเป็นเงินสด ให้กับพนักงานที่มาส่งของให้เรา ได้ไม่เกิน 2,000 บาท ถ้าเกินจากนั้น ก็รูดบัตรเครดิต (พนักงานจะมีเครื่องรูดมาให้ที่บ้าน หรือสถานที่เราแจ้งให้จัดส่ง) เงื่อนไขของบิ๊กซี
ครั้งแรกกับประสบการณ์ในการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Big C Online Shopping
การสมัคร – สมัครง่าย ใช้แค่อีเมล์ ใส่ที่อยู่จัดส่ง เหมือนเว็บไซต์ช้อปปิ้งทั่วไป
เลือกสินค้า – เลือกง่าย ข้อมูลครบ แต่แนะนำให้ดูดีๆเรื่องปริมาณ สี กลิ่น รส เผื่อรูปสินค้าไม่ตรงกับรหัสสินค้า ตรวจสอบจำนวนที่เราจะซื้อให้ดี
คำแนะนำ – ให้ซีเรียสแค่ตอนจ่ายเงิน ว่าใครเป็นคนมารูดบัตรเรา สินค้าครบไหม ถ้าให้เงินสดมีใบเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีการตัดบัตรเครดิตออนไลน์ แต่มีพนักงานเอาเครื่องรูดบัตรมาให้เรารูด
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงและปัญหาที่พบ
– สั่งสินค้าไป 2500 กว่าๆ ระบบแจ้งให้ชำระผ่านบัตรเครดิตที่พนักงานจะเอาเครื่องรูดมารูดจากเรา (ถ้าซื้อของเกิน 2 พัน จ่ายเงินสดไม่ได้ เพราะจ่ายเงินสด ต้องไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะมีพนักงานมารูดบัตรจากเราโดยตรงเลย) อันนี้คุยกับแฟน คิดว่าป้องกันพนักงานยักยอก หรือแฮ๊ปเงินไป เพราะเงินมีจำนวนมาก
– สั่งสินค้าเสร็จเรียบร้อย พบปัญหา 2 อย่างคือ 1. พนักงานโทรมาแจ้งว่า สินค้าได้ไม่ครบตามที่สั่ง 2. เมื่อได้รับแจ้งว่าสินค้าไม่ครบ เราก็ต้องจ่ายเฉพาะสินค้าที่มีในรายการ ทำให้มูลค่าเกิน 1500 บาทคือส่งฟรี และจ่ายด้วยเงินสดได้ ถึงตรงนี้ ดีใจมากที่โชคดีระบบไม่ตัดบัตรเครดิตออนไลน์ เพราะถ้าสินค้าไม่ครบ แต่ตัดเงินไปตั้งแต่สั่งสินค้าแล้วจะลำบากในการขอคืนเงิน
สิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่ไม่คาดคิด
– สั่งสินค้าคืนวันที่ 6 เมษายน ช่วง 5 ทุ่มทางเว็บไซต์ อันนี้ไม่มีปัญหา เสร็จสมบูรณ์
– แต่พนักงานโทรมาหาตอนช่วงเที่ยงของวันที่ 7 เมษายน แจ้งว่าสินค้าที่สั่ง มีไม่ครบ ทำให้ราคารวมสินค้าที่คิดไว้ตอนแรก 2500+ (ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต) เหลือเพียง 1500+ เท่านั้น (จ่ายเงินสดได้) ก็ยังอยู่ในช่วงราคาที่กำหนดในการส่งฟรีได้อยู่ แต่… เจอปัญหาข้อถัดไป
– โอเค ของไม่ครบ เกิน 1500 ก็ยังสั่ง ตอนแรกว่าจะมาส่งวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันหยุด แต่พนักงานโทรมาแจ้งอีกว่า ส่งของได้วันอังคาร ซึ่งเราทำงานกลับมาก็ 2 ทุ่ม ไม่ทันส่งของรอบสุดท้าย ในเมื่อเวลาจัดส่งไม่ลงตัว ผมก็ยกเลิกการสั่งซื้อทั้งหมดทันที เพราะถึงสั่งไป ของก็ได้ไม่ครบ ส่งก็ส่งวันที่เราไม่สะดวก
ปัญหาต่อมา เวลาจัดส่ง ถ้าคุณอยู่บ้านกับแฟน ต่างคนต่างออกจากบ้านไปทำงาน กลับมาก็ทุ่มสองทุ่ม วันธรรมดาหมดสิทธิ์ให้ส่ง เพราะไม่มีคนรับของ จริงอยู่ว่าสั่งซื้อทางเว็บเมื่อไหรก็ได้ แต่เวลาส่งสินค้าดันติดขัด แถมส่งถึงแค่สองทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาสุดท้ายหรือเลยกำหนดเวลาของการส่งสินค้า ถ้าให้ผมรีบกลับมาบ้าน แล้วนัดมาส่งสินค้าตอนสองทุ่ม เวลาที่กลับมาถึงบ้านก็เฉียดฉิวหรือไม่ทันรถที่มาส่งสินค้า
วิธีแก้ปัญหารอบนี้
– ยกเลิกการสั่งซื้อ เหตุเพราะ ของไม่ครบ, เวลานัดส่งสินค้าไม่ตรงกับเวลาที่เราสะดวก
คำแนะนำจากพนักงาน Big C ที่โทรมา
อย่างแรกที่ควรรู้คือ บิ๊กซีใช้พนักงานจัดส่งเป็นเจ้าเดียวกับที่จัดส่งเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ได้มีระบบจัดส่งแยกของการสั่งซื้อออนไลน์ ดังนั้น วันเสาร์และอาทิตย์จึงกลายเป็นคิวส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าไป ทำให้การส่งสินค้าที่เราสั่งซื้อออนไลน์เป็นวันธรรมดาถัดมา
สั่งอย่างไรให้เป๊ะ – สูตรพนักงานแนะนำว่า สั่งของวันพฤหัสบดี ส่งของวันเสาร์หรืออาทิตย์ เพราะตอนที่เราสั่ง เราไม่รู้หรอกว่า คิวรถส่งของว่างในวันเสาร์อาทิตย์หรือไม่
คำแนะนำของพนักงาน – หากเราสะดวกรับสินค้าวันอาทิตย์ พนักงานแนะนำให้สั่งสินค้าภายในวันพฤหัสบดี (น่าจะเป็นช่วงก่อนบ่ายสี่โมงครึ่งจะดีมาก) เพื่อให้ส่งสินค้าได้ในวันอาทิตย์ที่เราสะดวก (จริงๆขี้เกียจออกจากบ้าน)
สรุป
ข้อสรุปการสั่งซื้อจากบิ๊กซี สะดวก สบาย สั่งตอนกี่โมงก็ได้เพราะเป็นออนไลน์ สั่งใส่ตระกร้าทิ้งไว้ได้ ได้ของตามยอดที่ส่งฟรีค่อยจ่ายเงินก็ยังได้ รอบนี้สุดท้ายผมก็ยกเลิกการสั่งซื้อไป เพราะสินค้าไม่ครบ (ปัญหามาจาก นมไทยเดนมาร์คขาดตลาด) และอีกเรื่องคือความไม่สะดวกในการส่งสินค้า
คิดอีกมุมนึง
ถ้าช่วงไหนยุ่งๆ ไม่มีเวลา ก็อาจจะสั่งสินค้าไว้แล้วไปรับสินค้าที่สาขาได้สำหรับสินค้าบางอย่าง อย่างผมเนี่ยขี้ลืม ใครฝากซื้ออะไรก็ลืม ตอนที่เราไม่ลืมก็สั่งออนไลน์ไว้เลย ตอนเย็นก็แวะไปเอาของที่เราสั่งจากสาขาก่อนกลับบ้านได้ สะดวกดี บริการช้อปป่ิ้งออนไลน์ช่วยให้เราประยัดเวลา ไม่ต้องฝ่ารถติด ได้ของครบตามที่สั่ง (ปกติของมักจะไม่ขาด ยกเว้นขาดตลาด) แต่ผมไม่รู้ว่า ถ้าของหมด บิ๊กซีจะเอาของจากสาขาอื่นมาให้เราหรือไม่
คำแนะนำเพิ่มเติม
– ตรวจสอบสินค้าให้ครบถ้วน ทั้งก่อนสั่งซื้อ และตอบรับสินค้า
– พรินต์ใบสั่งซื้อสินค้าที่ระบบส่งมาให้ทางอีมล์ เพื่อตรวจสอบรายการสินค้าที่มาส่งให้ตรงกับรายการที่เราซื้อ สำรวจจำนวน ปริมาณประจุให้ถูกต้อง
– เอาให้ชัวร์ว่าพนักงานที่มาส่งเป็นของบิ๊กซีจริง เพราะที่ต้องระวังคือ คนที่มารับเงินสด หรือรูดบัตรจากเราเนี่ยแหล่ะ เกรงจะเป็นมิจฉาชีพปลอมตัวมาได้เหมือนกัน เรื่องเงินเรื่องใหญ่ครับ สั่งของเรื่องเล็กเลย