แชร์ประสบการณ์ ใช้ Windows & Android Tablet TECLAST X16 Pro ใช้แทนคอม 3 สัปดาห์

ก่อนหน้านี้ ผมได้มีโอกาสใช้ Windows Tablet + Logitech K480 ใช้แทนคอมพิวเตอร์มาแล้ว พกพกสะดวก แต่เมื่อได้รับ TECLAST X16 Pro มาทดสอบ เป็น Dual OS Tablet จอสัมผัส ขนาด 11.6 นิ้ว มีปากกา Stylus ใช้งานได้ทั้ง Windows 10 และ Android 5.1 พร้อม Keyboard Case แปลงร่างแท็บเล็ต เป็นคอมพิวเตอร์ ผมมีโอกาสได้ใช้งาน 3 สัปดาห์ บอกตรงๆว่าไม่อยากคืนเลย เพราะมันใช้แทนคอมไปแล้ว นำประสบการณ์มาบอกต่อครับ

จุดเด่นคือ แปลงร่างเป็นคอม ด้วยแท็บเล็ต Windows 10 + Android 5.1 จอ 11.6 นิ้ว Full HD มาพร้อมคีย์บอร์ดเคส (ผมพิมพ์สัมผัสอยู่แล้ว ดังนั้นการไม่มีสกรีนภาษาไทย ไม่ใช่ปัญหา แต่ติดสติกเกอร์ได้แหล่ะ) มาพร้อมปากกาสไตลัส แต่เสียดาย ไม่มีช่องเก็บปากกา แต่มีเคสคีย์บอร์ด ก็เสียบไว้ได้ หลักๆผมใช้คีย์บอร์ดเคสกับเม้าส์ Wireless หรือ Bluetooth เคยรีวิว Logitech Mx Anywhere 2

ตัวคีย์บอร์ดเคส สามารถพับด้านหลังให้แปลงร่างเป็นขาตั้งสแตนได้ แต่พื้นที่วางต้องมั่นคงและแข็งแรง และตรวจสอบก่อนวาง เพราะเคยวางไม่มั่นคง แท็บเล็ตล้มฟาดโต๊ะมาแล้ว มันจะแย่ตรงที่วางตักไม่ได้ ต้องวางบนโต๊ะเท่านั้น แต่ข้อดีคือพกง่าย เวลาเก็บก็พับเคส ปิด จบ

สเปค TECLAST X16 Pro (ขอร่ายตามการใช้งานจริง)

• เป็น Tablet PC ที่มี 2 OS Dual Boot: Android 5.1, Windows 10 
• CPU: Intel Cherry Trail-T4 Z8500 การใช้งานทั่วๆไปทำงานได้ดีมากๆ เหมือนคอมพิวเตอร์เลย
• GPU: Intel HD Graphic(Gen8) ไม่ได้เล่นเกม แต่ใช้ตัดต่อวีดีโอ ใช้ได้อยู่
• Core: Quad Core, 1.44GHz
• ไม่รองรับการใส่ซิม แต่รองรับ WiFi แต่มีพอร์ต USB 1 พอร์ต Micro USB 1 พอร์ต อยากต่อ USB AirCard ก็ทำได้
• การเชื่อมต่อ WiFi: 802.11b/g/n wireless / Bluetooth
• หน้าจอ 11.6 นิ้ว ออกจะใหญ่สำหรับการเป็นแท็บเล็ต จนทำให้เราอดเทียบกับ MS Surface ไม่ได้ หน้าจอแบบ Capacitive, IPS 1920 x 1080 (FHD)
• เป็นแท็บเล็ต จึงมีกล้องหน้าและหลัง แต่เอาจริงๆกล้องแท็บเล็ตเราไม่เน้นอยู่แล้ว จอ 11.6 นิ้ว ใครจะยกขึ้นมาถ่ายรูป กล้องหน้ายังโอเคว่าได้ใช้คุย skype อะไรงี้
• กล้องหลัง 5.0MP
• กล้องหน้า 2.0MP
• รองรับ Micro SD
• มีพอร์ต Micro USB 1 ช่อง ต่อกับอแดปเตอร์ USB OTG ได้ แต่ทั้งนี้ก็มีพอร์ต USB ให้อีกช่องนึง (USB 3.0) ผมใช้ Wireless Mouse ก็เอา USB Wireless Dongle เสียบกับพอร์ต USB หรือผ่าน USB OTG Adaptor เสียบกับช่อง Micro USB ก็ได้ 
• ส่วนการชาร์จแบต จะมีหัวชาร์จแบตอีกอันนึง สะดวกในการใช้แทนคอมพิวเตอร์มากๆ เป็น DC Jack 100-240V 5V 2.5A  และไม่ต้องยุ่งกับ Micro USB ทำให้ชาร์จไฟไป ใช้ USB OTG ได้  
• ถ้าอยากต่อจอ ก็มี Micro HDMI ให้
• ต่อหูฟัง 3.5ม.ม.
• แบตเตอรี่ 32,300 mWh ใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง (จากการพิสูจน์จริง) ต่อ Wi-Fi, Bluetooth, USB OTG, USB External Harddisk
• รองรับ G-sensor

ข้อมูลฉบับเต็ม

ส่วนต่างๆของตัวเครื่อง

ด้วยความที่จอ 11.6 นิ้ว ทำให้ตัวเครื่องหนักเกินไปที่จะถือมือเดียว การใช้งานเป็นโน้ตบุ๊ก เหมาะที่สุด ถ้าวางบนคีย์บอร์ดเคส ซึ่งมีตัว Docking เสียบอยู่ ทำให้บังคับการวาง ปุ่มปรับเสียง และ Power บนขวา ขวามือเป็นโลโก้ Windows มีกล้องด้านหลัง และด้านหน้า ซ้ายมือเป็นหลักของการต่อหูฟัง, USB ขนาดปกติ, ชาร์จไฟ, Micro USB และด้านซ้ายบนเสียบ Micro SD

ส่วนคีย์บอร์ดเคส (Keyboard Case) จะต่อกับ X16 Pro ด้วยขั้วที่เป็นแหลมๆ แบบนี้ เรียกว่าอะไรเรียกไม่ถูก เรียกว่าเป็น Docking Case แล้วกัน บังคับให้วางแนวนี้ครับ เพราะกล้องหน้าอยู่ด้านบนด้วยแหล่ะ

มาดู Keyboard Case กับการตั้งแท็บเล็ต แปลงร่างเป็นคอมพิวเตอร์ โดยตัวเคส ฝาพับ สามารถพับแนวทะแยง ติดแม่เหล็ก เป็นฐานตั้ง Stand สำหรับ Tablet ได้

คีย์บอร์ด เป็นแบบมาตรฐาน ปุ่มขนาดใหญ่ วางห่างกัน เด้งดีมาก ทัชแพด ใช้งานไม่สะดวก มือไปโดนบ่อย ใช้เม้าส์สะดวกกว่า ดีที่สามารถปิดทัชแพดได้ (กด Function + Space bar)

ยอมรับว่าชอบคีย์บอร์ดเคส เพราะพิมพ์ง่าย เปลี่ยนภาษาอะไรก็ทำได้เหมือนโน้ตบุ๊กทุกประการ จนไม่อยากคืนเครื่องเลยจริงๆ มันใช้แทนคอมได้สนิทแนบเนียนมาก ตอนใช้นี่ไม่ได้ใช้แป้นพิมพ์ของหน้าจอเลย ใช้แป้นพิมพ์บนคีย์บอร์ดเคสล้วนๆ ตอนพิมพ์เขียนบล็อคนี้ก็ใช้แป้นพิมพ์อันนี้

สำหรับการชาร์จไฟ จะใช้แอดปเตอร์ ขั้วแบบ Notebook เป็นกลมๆ เข็มๆ มีทั้งข้อดี และข้อเสีย

ข้อดีคือ สามารถชาร์จไฟ พร้อมกับเสียบ USB OTG กับ Flash Drive, External Harddisk ได้ เพราะไม่ต้องใช้พอร์ตเดียวกัน ปกติบางรุ่นต้องถอดสายชาร์จออกเพื่อต่อ USB OTG ทำให้สะดวกกว่า แต่ก็ต้องแลกกับการพกสายชาร์จไปทุกที่ แถมเสียบ Power Bank ทั่วไปไม่ได้ ดังนั้นรุ่นนี้ออกแบบให้เป็น Notebook Windows / Android จอสัมผัส ใช้แทนคอม ประมาณนั้น ส่วน Micro USB นั้น ชาร์จไฟไมไ่ด้นะครับ (ลองแล้ว)

ส่วนพอร์ต USB มีให้ 1 ช่อง ดีตรงที่ต่อ เม้าส์มีสาย เม้าส์ไร้สาย (ต่อ USB Wireless Dongle) ได้ แต่ด้วยความที่ พอร์ต USB อยู่ติดกับขั้วพอร์ตชาร์จไฟ ทำให้ตอนเสียบ USB ถ้าเป็น USB Flash Drive ที่หัวโตๆก็จะเกะกะขวางทางกับการเสียบชาร์จไฟพร้อมกัน

การควบคุม ทำได้ทั้ง

– ใช้นิ้วสัมผัส ถอดจอออกเป็นแท็บเล็ต Windows และ Android จอสัมผัสได้

– ต่อกับคีย์บอร์ดเคส พิมพ์งานเหมือนคอมพิวเตอร์เป๊ะ เนียนเลย

– ต่อ USB / USB Wireless Dongle เพื่อใช้เม้าส์ได้

– ใช้ปากกา ควบคุมแทนเม้าส์ เช่นการคลิก การลากตัวอักษร เพื่อ copy, paste

– ใช้ Shortcut บนคีย์บอร์ด โหมด Windows ก็ใช้ Ctrl + C / Ctrl + V ได้ตามปกติ

การใช้งานหลักๆผมใช้โหมด Windows 10 เป็นหลัก การใช้งานใช้ Browser, LINE (Windows 10 App) Photoscape (desktop program) เพื่อเขียนข่าว บทความ บล็อก

ทำไมต้องใช้แทนคอม ทำไมไม่พก Notebook ไปเลย??

ปกติผมไปแบกโน้ตบุ๊กไปทำงานนอกสถานที่ ใครเจอผมบ่อยๆ จะคุ้นกับภาพแบกเป้โน้ตบุ๊กใบใหญ่ แบกน้ำหนักโน้ตบุ๊กร่วม 2 กิโล เพราะไม่ได้แบกแค่โน้ตบุ๊ก แต่พก Adaptor ชาร์จไฟ สาย USB, เม้าส์, Power Bank มือถือ แท็บเล็ต เครื่องทดสอบ และเครื่องส่วนตัว ร่วมๆ 2.5 – 5 กิโลทุกวัน แบกจนปวดหลัง ก็เลยคิดว่า เราอยากจะพกอุปกรณ์ที่่เบากว่านี้ แต่ยังคงความสามารถใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ คือไม่ใช่แค่แท็บเล็ต Windows แต่ทำงานได้เหมือนคอมเลย หลังลอง Teclast X98 Pro แล้วลอง Teclast X16 Pro แต่ผมยังไม่เคยลอง MS Surface นะ แต่ผมมองพฤติกรรมการใช้งานของผม โดยส่วนตัว งบเท่านี้ ผมซื้อ Teclast ก็ใช้ทำงานได้เหมือนกัน (ตามการใช้งานของผม) ผมไม่จำเป็นต้องใช้โน้ตบุ๊ก (ถ้าจะใช้จริงๆ มี Macbook Air อยู่แล้ว) การใช้ Tablet + Keybaord ก็ทำให้เอนกประสงค์ เครื่องเดียว ถอดจอออกมา ใช้ Android Tablet ถ้าสะดวกในการใช้แอพตัดวีดีโอบน Android ก็สลับไปใช้ Android ได้ หรือถ้าใช้ Windows ต่อกับคีย์บอร์ด นี่มันคอมพิวเตอร์ชัดๆ บางครั้งเราไม่ได้ใช้เม้าส์ ก็ใช้ปากกา หรือนิ้วจิ้มจอได้ นั่งอ่านเฟสบนคอมก็ใช้นิ้วมือรูดดู Facebook Feed ได้

การใช้งานจริง 3 สัปดาห์

ปลื้มมาก ด้วยแรม 4GB ทั้งฝั่ง Windows และ Android ผมว่ามันเริ่ดมาก ตอนนี้แรม 4GB บนอุปกรณ์พกพาเหมาะกับการใช้งานในตอนนี้มากๆ แรมอย่างต่ำตอนนี้ต้อง 3 – 4GB น้ำหนักตัวเครื่อง (เฉพาะตัวเครื่อง 8 ร้อยกว่ากรัม) แต่คีย์บอร์ดเคส และปากกา ปาเข้าไปกิโลกกว่าแล้วนั่น แต่นั่นก็ยังเบากว่าโน้ตบุ๊กแหล่ะน่า ยังไงผมก็แบกเป้โน้ตบุ๊กอยู่แล้ว แต่ทำไมอุปกรณ์มันเยอะกว่าเดิม (ฮา)

ฝั่ง Windows 

ผมเน้นใช้คีย์บอร์ด เม้าส์ แทบไม่ได้ใช้ปากกาและนิ้วจิ้มเลย ส่วนหน้าจอ มีความละเอียด สูงสุด 1920 x 1080 pixels

ปกติแล้ว Windows Tablet ไม่ถูกจริตผมตรงแป้นพิมพ์บนหน้าจอเนี่ยแหล่ะ ไม่สะดวก ไม่ถนัดเลย การมีเคสคีย์บอร์ด ช่วยแก้จุดนี้ของผมได้ดีมากๆ

TouchPad นี่ไม่ถนัดมากๆ (แต่รุ่นอื่นไม่เป็นนะ ผมใช้คล่องมากๆ) เลยต้องใช้เม้าส์ควบคุมแทนทัชแพด

ในขณะที่การทำงาน Multi-Tasking ผมยังยกให้ Windows Tablet ทำงานได้ดี พอๆกับ Android 5.1

นอกจากนี้ยังรองรับการตัดวีดีโอได้ดี ตัดคลิปง่ายๆ ได้สะดวกทุกที่ แต่ถ้าจะเอาแบบเต็มรูปแบบก็มีโน้ตบุ๊กตัวอื่นใช้อยู่แล้ว

การใช้งานหลักๆ บน Windows ของผมคือ Browser เขียนข่าว บทความ blog ใช้ Photoscape ใส่ลายน้ำ ย่อภาพ จัดเรียงภาพ ตกแต่ง ตัดต่อวีดีโอก็ใช้งานได้ดี

พื้นที่จัดเก็บข้อมูล

ด้าน พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ด้วยความที่เป็น 2 OS ก็เลยแบ่ง Windows / Android คนละพาร์ติชั่น เข้าไปดู โอ้ว ไดร์วเยอะมาก

พื้นที่ฝั่ง Windows ประมาณ 30 กว่า GB นับเฉพาะส่วนที่ใช้งานได้

ช่วงแรกๆได้เครื่องมาก็สีฟ้าสดใสแบบนี้

พอใช้ไป 3 สัปดาห์ แดงเถือก

พื้นที่บน Drive C ถูกใช้เกือบเต็ม ลง (โปรแกรม) ทุกอย่างในนี้ เก็บรูปด้วย ดีที่เพิ่ม MicroSD ได้ ผมใช้ 16GB บน MicroSD เก็บข้อมูลตามปกติอยู่แล้ว เอาไว้ backup ได้ด้วย (โปรแกรมลงบนไดร์ว C อย่างเดียว)

ในภาพเป็นการติดตั้งโปรแกรมมากมาย ทั้ง LINE (Windows Store) Photoscape (Desktop Mode) Filmora VDO Editor, Logitech WebCam, Logitech Options, ตัวจับสัญญาณ Wi-Fi, AVS VDO Editor, Offiice Mobile เรียกว่าติดตั้งโปรแกรมเพียบ เหมือนกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ปกติ

การใช้งานฝั่ง Android

สลับแอพ ใช้แทนคอมก็สะดวก เพราะ Android ต่อเม้าส์และคีย์บอร์ดได้อยู่แล้ว

ไปดูคลิปการทำงานบนฝั่ง Android กันว่าไหลลื่นแค่ไหน บันทึกวีดีโอหน้าจอด้วย AZ Screen Recoder ลื่นตามวีดีโอโดยไม่มีการปรับแต่งใดๆครับ

การใช้งานแบตเตอรี่ โดยเฉลี่ยใช้งานได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการตั้งความสว่างหน้าจอ การปิด / เปิด Wi-Fi การปิด / เปิด Bluetooth การใช้งานเม้าส์ Bluetooth / รับส่งไฟล์ ดาวน์โหลด อัพโหลด ตัดต่อวีดีโอ มีผลต่อแบตเตอรี่ทั้งสั้น

4 มีนาคม ใช้งานที่ออฟฟิศ ไม่ได้อยู่หน้าคอมตลอดเวลา ใช้แล้วปิด Shut Down บ้าง Sleep บ้าง

แต่การวัดระยะเวลาในการใช้งานของ Windows 10 อาจคลาดเคลื่อน แต่ผมดูเวลามุมซ้ายล่างแทน ใช้ตอน 10 โมง 9 นาที 92% ปิด Battery Saver ไฟหน้าจอสว่าง 50% ข้อดีคือจอนี้ ปรับ 50% ก็ทำงานได้ดีแล้ว ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วย กลางคืนมาใช้ต่ออีกรอบ จนมันขึ้น Battery Save อัตโนมัติ

7 มีนาคม

ดูเปอร์เซนต์แบตเตอรี่ และความสว่างหน้าจอ และ Battery Saver นะครับ หน้าจอ 75% ใช้งานเขียนบทความ บล็อก ข่าว การใช้งานหลัก Browser ต่อผ่าน Wi-Fi ใช้เม้าส์ wireless / bluetooth แล้วแต่โอกาส

4.41น.

ตื่นแต่เช้า มาเขียนบทความ ชาร์จไว้ 100% ระบุใช้งานได้ 4 ชั่วโมงโดยประมาณ (Windows 10)

6.30น.

เขียนเสร็จเตรียมไปออฟฟิศ เหลือ 1 ชั่วโมง 24 นาที

ใช้ที่ออฟฟิศ ช่วง 8.30 ไม่ได้ใช้ตลอด จนแจ้งเตือน Battery Saver 20% เวลา 10.40น. มีการอัพ YouTube ด้วย แบตจึงหมดไว 10.54น. เหลือ 16% จน 8% ตอน 11.19น. ถึงเวลาชาร์จแบตแล้วล่ะ

ผมมองว่าแบตใช้งานได้โอเคมากๆ กับงานของผม ที่ปกติหาปลั๊กเสียบได้ไม่ยาก

ส่วนฝั่ง Android รู้สึกว่า ใช้แบตได้นานกว่า แต่ในภาพ รู้สึกจะคลาดเคลื่อน ผมใช้ช่วง กุุมภา – มีนา แต่มันจับการใช้งานตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ปีที่แล้ว

ฝั่ง Windows 16% กลับไปฝั่ง Android ก็ 16% เช่นกัน อันนี้เทียบการอัพโหลดไฟล์ผ่าน YouTube ถ้าใช้ Youtube Upload ไฟล์ การใช้แบตก็พอกัน

ผมอัพวีดีโอข้างบน ผ่าน Android Mode เนี่ยแหล่ะครับ แต่ใช้ Browser นะ ไม่ได้ใช้แอพ YouTube

ข้อดี ควรซื้อ

– ถ้าคุณยังติดการใช้คอมพิวเตอร์ พฤติกรรม ลักษณะการใช้งาน ใช้ Windows เป็นหลัก หรือใช้ Mac กับ Browser Chrome, IE, Firefox เป็นหลัก

– อยากได้ 2 OS Windows / Android พกเครื่องเดียว (แต่หนักหน่อย)

– ใช้แทนคอม อยากแยกร่าง แท็บเล็ตออกจากคีย์บอร์ดก็ทำได้

– เพิ่ม Micro SD ได้ คือดีงาม

– ชาร์จไฟไป ใช้ USB OTG พร้อมกันได้ เพราะคนละช่อง

ข้อสังเกต

– ต้องพกที่ชาร์จ จำเป็นต้องมีปลั๊ก เพราะขั้ว DC แยกจาก Micro USB ทำให้มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ชาร์จไฟพร้อมกับใช้ Micro USB ต่อ OTG ได้ แต่ต้องพกที่ชาร์จไปด้วยทุกที่ เนื่องจากใช้ Power Bank ชาร์จผ่านพอร์ต Micro USB ไม่ได้

– ตัวเครื่องไม่รองรับการใส่ซิม ต่อได้แต่ Wi-Fi แต่ถ้าสะดวกใช้ 3G / 4G บนมือถือ แท็บเล็ต Tethering ก็จะทำให้สะดวกมากขึ้น

– USB Port ติดกับขั้วชาร์จ DC มากไปนิดนึง เจอ Flash Drive กกร์ตูนหัวโตหรือของพรีเมี่ยมก็จบ ต้องถอดสายชาร์จออกก่อน หรือใช้ USB Hub แทน

– ทัชแพด ใช้งานไม่สะดวก ไม่คล่องตัว ต้องต่อเม้าส์แทน หรือใช้นิ้วจิ้ม หรือปากกา

– ไม่มีช่องเสียบปากกาบนตัวแท็บเล็ต แต่เสียบหนีบไว้กับเคสได้

สรุป การใช้งาน (ส่วนตัว) ของผม สะดวกมากๆ ใช้แทนคอมได้เลย ฝั่ง Windows ใช้แทนคอมไปเลย ฝั่ง Android ก็ใช้สะดวกดี มีปากกาสไตลัส คุ้มมาก

สนใจซื้อที่ได้ Thaiware Shop