22 ฟีเจอร์เด็ดบน Samsung Galaxy A30 & Galaxy A50 ที่ Samsung ไม่ได้อวด
Samsung เปิดตัวมือถือในตระกูล Galaxy A ใหม่ใน Series ปี 2019 กับการปรับรหัสรุ่นเป็นเลข 2 หลัก ซึ่งมีรุ่นไฮไลท์ก็คือ Galaxy A30 และ Galaxy A50 ซึ่งผมได้ทำรีวิวเป็นวีดีโอบน YouTube ไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับวันนี้ หลังจากที่เราใช้งานมา 2 สัปดาห์ เรามาดูกันว่า ฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจ แต่ Samsung ไม่ได้อวด
ก่อนอื่นขอเล่าคร่าวๆ ว่าทาง Samsung ได้อัพเดต Segment ของผลิตภัณฑ์จาก Galaxy J สู่ Galaxy A คือไม่มีตระกูล J แล้ว แต่มาเล่นบน Galaxy A ทั้งหมด โดยเจาะกลุ่ม Gen Z คนชอบ Live กำลังจะมีการจัดงาน Samsung Event ในวันที่ 10 เมษายน โดยพา BLACKPINK มาแสดงโชว์ด้วย
Samsung Galaxy A50 มาพร้อมกล้องหลัง 3 กล้อง ถ่ายมุมกว้างได้ 123 องศา โดยมีกล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียดเท่ากันคือ 25MP พร้อมจุดเด่น ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้คมชัด ถ่ายภาพมุมปกติ ระยะไกล และเลนส์ Ultra Wide ถ่ายภาพมุมกว้าง หน้าจอ Full HD+ Super AMOLED พร้อมหน้าจอดีไซน์แบบใหม่ Infinity-U ขนาด 6.4 นิ้ว แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว อีกความพิเศษคือ สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-screen Fingerprint Unlocking) ล้ำสุดๆ ในการปลดล็อกหน้าจอ และใช้ใบหน้าปลดล็อกหน้าจอได้ด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ Samsung Galaxy A30 มาพร้อมหน้าจอ Full HD+ ชิดขอบแบบ Infinity-U ขนาด 6.4 นิ้ว Super AMOLED แบตเตอรี่ 4000 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน มีกล้องหลังคู่ เลนส์ Ultra Wide และเลนส์ระยะปกติ สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
Samsung Galaxy A50 ราคา 11,490 บาท และ Samsung Galaxy A30 ราคา 7,290 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ
Samsung Galaxy A50 รับฟรี เสื้อยืดรุ่นลิมิเต็ด Samsung Galaxy A x Rukkit
ผ่อน 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือน หรือเลือกผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืน 250 บาท
Samsung Galaxy A30 รับฟรี ร่มพับ (Galaxy Umbrella)
ผ่อน 0% นาน 24 เดือน หรือเลือกผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืน 150 บาท
สอบถามที่ Samsung Brand Shop แล้วกันครับ
ฟีเจอร์เด็ดบน Samsung Galaxy A30 & A50 ที่ Samsung ไม่ได้อวด
1. อินเตอร์เฟซ หน้าตาการใช้งานแบบใหม่ One UI ไอคอนใหญ่ โค้งมนสวย สะดุดตา มองเห็นชัดเจน
จะว่าไป ก็ไม่ถึงกับว่า Samsung ไม่ได้อวดเรื่องนี้ซะทีเดียว คือมีพูดถึงแหล่ะ แต่เราก็อยากพูดถึงเยอะๆ หน่อย เพราะรุ่นใหม่เป็น One UI เป็น UI (User Interface) แบบใหม่ ทำออกมาสวย รองรับการใช้งานมือเดียว เวลาใช้ ตอนอยู่หน้า Home ก็ตวัดนิ้วขึ้น เพื่อเรียกเมนูอื่นๆ เพิ่มเติมได้
2. Always On Display
ปกติเรามักจะหยิบมือถือขึ้นมากด Wake ให้หน้าจอติด เพื่อดูเวลา หรือดู Notification ต่างๆ ตอนนี้เราสามารถดูหน้าจอมือถือขณะล็อคอยู่ ดูเวลา ข้อมูลต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกดปุ่ม Power เพื่อเปิดจอให้สว่าง โดยใช้ Always On Display เพื่อดูเวลา ดูข้อมูลต่างๆ ได้เลย ถ้าได้ใช้แล้วจะรู้สึกสะดวกขึ้นมาก และยังดูปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือได้ด้วย รู้จัก Always On Display
3. แสดงผลแอป เป็นหน้าต่าง Pop-up ลอย
เราสามารถกำหนดแอป ที่เมื่อมี Notification แจ้งเตือน จะเด้งแสดงเป็นหน้าต่าง Pop-up ลอย (เฉพาะแอปที่เราเลือกเท่านั้น) อันนี้เก๋ดี
จากที่ลองใช้งาน เวลาที่คนมา comment บน YouTube ก็จะเด้งไอคอนเล็กๆ บนจอ พอเรากดไอคอน จะเด้งหน้าจอให้เราตอบ comment ได้เลย หรือถ้าเป็น Facebook ก็เด้งให้เราตอบ comment ได้ ส่วน LINE นั้น ตัว LINE ผมตั้งค่าไม่ให้แจ้งเตือนอยู่แล้ว มันก็เลยไม่ขึ้นอะไร
4. โทรผ่าน Wi-Fi [VoWiFi] ได้ทั้ง 2 ซิม
รองรับการโทรผ่าน Wi-Fi นั่นหมายความว่า หากว่า ที่ไหนสัญญาณมือถือไม่ดี โทรแล้วเสียงขาดๆ หายๆ แต่มี Wi-Fi ก็ต่อ Wi-Fi คุยได้ รองรับทั้ง 2 ซิม ถ้าเราต่อ Wi-Fi อยู่ แล้วมีคนโทรหาเรา แล้วเราตั้งค่าไว้ให้เครื่องคุยผ่าน Wi-Fi ถ้าเราต่อ Wi-Fi อยู่ เครื่องจะคุยผ่าน Wi-Fi ก่อนเลย ข้อดีคือ สัญญาณเสียงชัดในกรณีที่สัญญาณมือถือขีดเดียว หรือแทบจะไม่มีเลย อันนี้ใครอยู่ตึกสูงๆ แล้วอับสัญญาณ ต่อ Wi-Fi แล้วคุยเสียงชัดแจ๋ว แต่เครือข่ายที่ใช้ต้องรองรับด้วย ซึ่ง AIS, dtac, TrueMove H ใช้ได้
5. โทรผ่าน 4G VoLTE ได้ทั้ง 2 ซิม
การโทรผ่าน 4G หรือ VoLTE นั้นทำให้เสียงสนทนา คุยกัน ชัดเจนกว่าใช้ 3G ปกติ ซึ่งบ้านเรากำลังจะไม่มี 2G แล้ว การโทรผ่าน 3G ถ้าสัญญาณไม่ดีนัก เสียงขาดๆ หายๆ แต่ถ้าใช้ 4G มีโปร 4G ก็จะโทรผ่าน 4G ได้ โดยจะต้องใช้กับเครือข่ายที่รองรับ ซึ่ง AIS, dtac, TrueMove H ใช้ได้
6. ระบบเสียง Dolby Atmos (เสียบหูฟัง)
ถ้าเราเสียบหูฟัง สามารถปรับระบบเสียง Dolby Atmos ได้ ทำให้เสียงมีมิติขึ้น
7. ปรับ EQ ได้
ปรับ Equalizer เสียงได้ ชอบเสียงแนวไหนก็ปรับได้ (ใช้กับหูฟัง)
8. Adapt Sound ปรับเสียงดังตามช่วงอายุได้
อันนี้จะอธิบายภาษาไทยว่ายังไงดีล่ะ พูดง่ายๆคือ แต่ละช่วงอายุ มีการรับฟังที่ไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆ คืออายุเยอะขึ้น การได้ยินก็ลดทอนลงไป ดังนั้น สามารถปรับแต่งเสียงให้มีคุณภาพเหมาะกับการได้ยินของเรา ในแต่ละช่วงอายุ ทั้งการฟังเพลง และโทรสนทนา จากภาพ ถ้าเปิด Adapt Sound เสียงที่ได้จะเป็นสีฟ้าเข้มตามภาพ
9. ฟิลเตอร์แสงสีฟ้า Blue Light Cut ถนอมสายตา
เปิดโหมดถนอมสายตาได้ โดยสีหน้าจอจะเปลี่ยนไป (แต่ในภาพ อาจมองไม่เห็นชัดนัก) แต่ตาเปล่าเราเห็นความแตกต่างแน่นอน หลักๆ คือเมื่อเปิด จะปรับหน้าจอเหมือนใส่ฟิลเตอร์ ทำให้ความสว่างลดลง มองสบายตาขึ้น แต่สีจอก็จะเพี้ยนไปจากเดิมด้วย
10. โหมดกลางคืน
11. ย้ายปุ่ม Shutter ไว้ตรงไหนก็ได้ที่เราถนัด
อันนี้น่าสนใจ เพราะว่าเวลาเราถ่ายรูป เราก็เอานิ้วโป้งกดถ่ายรูปยาก เพราะจอใหญ่ ไหนจะต้องประคองมือถือ ไหนจะต้องกดชัตเตอร์ให้มือนิ่ง ภาพไม่เบลอ ถ้าย้ายปุ่ม Shutter มาไว้ตรงตำแหน่งหรือจุดที่เราถนัดนิ้ว ก็สบายล่ะ
12. ปรับโหมดการแสดงผลหน้าจอ AMOLED
ปรับการแสดงผลจอให้เหมาะกับแอปที่เราใช้ เช่น ชมภาพยนต์ ก็อยากได้โทนสีหน้าจอแบบนึง เป็นต้น
13. ปิดติ่งได้
หน้าจอ Infinity-U Display มีติ่งแล้ว แต่ปิดติ่งได้สำหรับคนที่ไม่ชอบ
14. โหมดใช้งานง่าย
โหมดใช้งานง่าย มีไม่กี่เมนูให้เลือก ไม่งง ไม่สับสน ดูใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
15. โหมดแว่นขยาย ใช้ถ่ายรูป แล้วขยายดูได้
อยู่ในโหมดใช้งานง่าย ใช้ถ่ายรูปแล้วขยายซูมดูได้ อันนี้ไม่เหมือนกับโหมดถ่ายรูปที่ถ่ายรูปแล้วซูมภาพดู แต่แบบนี้คล้ายแว่นขยายจริงเลย
16. Dual Messenger ใช้ 2 บัญชี Facebook, Messenger, LINE
ใครที่มี Facebook 2 บัญชี LINE 2 บัญชี อันนึงของบริษัท อีกอันส่วนตัว หรืออันนึงขายของ อีกอันคุยเล่น ก็แยกบัญชีได้
17. Digital Wellbeing ตัวช่วยสะท้อนพฤติกรรมการใช้งานของเรา
เหมือน ScreenTime คือวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน ว่าเราใช้งานอะไรกี่นาที กี่ชั่วโมง ปลดล็อกหน้าจอกี่ครั้ง แจ้งเตือนกี่ครั้ง ลักษณะนี้ช่วยให้ เราสำรวจตัวเองได้ เข้ามาดูได้ว่าเราใช้อะไรเยอะ มีจำนวนครั้งในการปลดล็อกหน้าจอด้วย
ในภาพ เราใช้ LINE นานที่สุด รองลงมาคือ Facebook เราลองเทียบดูก็ได้ วันทำงาน กับวันหยุด เพื่อเลือกแพ็กเกจเน็ตให้เหมาะกับตัวเราด้วย
18. Galaxy A50 มีสแกนนิ้วบนหน้าจอ
จากที่ทดลอง จะต้องลงทะเบียนลายนิ้วมือตามที่เราถนัด ถ้าตรงเป๊ะ ก็ปลดล็อกได้ไม่ยาก โดยวางนิ้วบนจอสักครู่เพื่อปลดล็อกหน้าจอ
19. Galaxy A50 บันทึกเสียงสนทนาขณะโทรได้
อันนี้ ได้ไอเดียจากกระทู้ Pantip เพราะส่วนตัวไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้เลยครับ ขณะโทร สามารถบันทึกเสียงสนทนาได้ แล้วก็เอามาฟังย้อนหลังได้
20. Gesture
ใช้ท่าทางสั่งงานได้ เช่น เวลาหยิบมือถือขึ้นมา หน้าจอติดสว่างทันที หรือแตะหน้าจอ 2 ครั้ง เพื่อปลุกหน้าจอ ใช้สันมือ จับภาพหน้าจอ
21. แบตอึด
ทั้ง Galaxy A50 และ Galaxy A30 รองรับ Fast Charge โดยมีอแดปเตอร์ชาร์จด่วนมาให้ด้วย แบตเตอรี่ใช้ได้ประมาณ 1 วัน นิดๆ หมายความว่า ถ้ากลับถึงบ้าน จะนอนแล้วแบตยังไม่หมด กลางคืนก็ไม่ต้องชาร์จ ใช้ข้ามวันได้เลย กรณีนี้ผมไม่ได้เล่นเกม แต่ใช้ Facebook LINE IG Twitter Gmail ถ่ายรูป วีดีโอ คุยโทรศัพท์ โทรไลน์ ใช้ได้นานจริง
22. Galaxy Gift รับสิทธิประกันจอแตกนาน 1 ปี
มีประกันจอแตก 1 ปี แต่จะต้องรับสิทธิผ่าน Galaxy Gift ภายใน 30 มิถุนายนนี้
และนี่คือคุณสมบัติที่คุณจะได้เมื่อซื้อ Samsung Galaxy A30 หรือ Galaxy A50 ที่มาพร้อมกล้องไวด์ กล้องถ่ายภาพชัด เซลฟี่สวย จอใหญ่ แบตอึด และยังทำอะไรได้มากมาย รับรองว่าใน 22 ฟีเจอร์นี้ จะต้องมีสักฟีเจอร์ที่โดนใจคุณ