สัมภาษณ์พิเศษ Byrd & Heart : ครั้งแรกของ “คอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นจากความรู้สึก”

ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์พิเศษ เป็นส่วนตั๊ว…ส่วนตัวในฐานะ blogger ที่ชื่นชอบ Byrd & Heart มาตั้งแต่เด็ก ได้พูดคุยอย่างเป็นกันเองมากๆ กับพี่เบิร์ด และพี่ฮาร์ท ได้สัมผัสถึงความตั้งใจ กับครั้งแรก ของคอนเสิร์ตที่เกิดจากความรู้สึก เป็นคอนเสิร์ตแรก ที่พี่ทั้ง 2 คน จัดกันเอง โดยไม่ได้พึ่งบริษัทจัดคอนเสิร์ตใดๆ หรือพูดแบบง่ายๆคือ พี่เขาจัดกันเอง!

จากกันไปนานหลายปี ในเมื่อเรา จากกันมานาน ก่อนจะไปถึง คอนเสิร์ต “est sugar free” Presents…. 30 Years Byrd & Heart Concert Sometimes But Always ในวันที่ 12 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็คฯ วันนี้ เราได้พูดคุยกับพี่เบิร์ด และพี่ฮาร์ท ว่าพี่ทั้ง 2 หายไปไหนกันมา ทำอะไรกันอยู่บ้าง

ก่อนอื่น ขอขอบคุณ การบินไทย และ รีสอร์ท Rancho Charnvee Khao Yai ที่นัดให้ blogger อย่างเรา ได้มีโอกาส พบกับตัวจริงของ เบิร์ดกะฮาร์ท อย่างใกล้ชิดขนาดนี้

เบิร์ด กะฮาร์ท หายไปไหน?

ถ้าเป็นแฟนคลับตัวยง น่าจะติดตามพี่เขาตลอด แต่สำหรับแฟนเพลงที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก อย่างผม มองว่าเวลาผ่านไปหลายปี เห็นหน้าพี่ฮาร์ท เป็นพิธีกรรายการ ผู้ประกาศข่าว พิธีกรงานต่างๆ อยู่บ่อยๆ แต่สำหรับพี่เบิร์ดนั้น ณ ตอนนี้เป็นผู้บริหารค่ายเพลง ส่วนตัวไม่ถนัดกับงานพิธีกร งานลงเสียงนัก ด้วยเหตุผลว่าพี่เขาเรียนเมืองนอก การพูดภาษาไทยจะรัว และมีเรืองที่เล่าสู่กันฟังแบบน่ารัก คือพี่เขาเรียนเมืองนอก ดังนั้นการเขียน การสะกด ตัวหนังสือภาษาไทย พี่เขาพยายามมาก พี่เขาน่ารักในแบบของเขา คิดดูว่า 30 ปีก่อน การส่งจดหมายไปต่างประเทศ มันไม่ได้ง่ายเลย

เราพูดคุยกันเรื่องจดหมาย ที่แฟนคลับส่งหาพวกเขาที่อเมริกาเมื่อ 30 ปีก่อน พี่เขาเป็นคนตอบจดหมายด้วยตนเอง แฟนคลับประทับใจมากๆ ไม่คิดว่าศิลปินจะตอบจดหมายเขา (อย่าลืมว่า เขียนจดหมายข้ามประเทศนะครับ) ขอบคุณ รูปจดหมายจาก @noot010 blogger ที่ไปด้วยกัน

ย้อนอดีต เบิรด กะ ฮาร์ท ดังได้ยังไง ทำไมมาถึงจุดนี้ได้ #เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร 

สำหรับเพลง พวกเขามองว่า เป็นงานอดิเรกที่พวกเขาชอบ ว่างจากเรียน เขาก็ทำเพลง แต่ใครจะไปรู้ได้ว่า การที่เขาไปเรียนที่ต่างประเทศ เขาจะเป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีแฟนคลับ เขียนจดหมายจากประเทศไทยไปอเมริกา สมัยนั้น เขียนจดหมายไปต่างประเทศ ก็ใช้เวลาหลายวันอยู่ เขาเพียงอยากบันทึกไว้ พี่เบิร์ดยกตัวอย่างว่า ถ้ามองว่า นึกถึงใครที่ยิ่งใหญ่ หลายๆคนคงนึกถึง The Impossible แต่ถ้า 30 ปี นึกถึง Byrd & Heart พวกเขาต้องการบันทึกไว้ว่า เดินทางมาถึงตรงนี้แล้ว 30 ปี และจุดๆนี้ คือจุดที่อยากบันทึกไว้ว่า นักร้อง Duo อย่างเบิร์ทกะฮาร์ท คิดถึงแฟนคลับ นี่คือคอนเสิร์ตครั้งแรก ที่ศิลปิน ต้องการจัดคอนเสิร์ต เพราะเหตุผลที่ว่า อยากจะเจอแฟนคลับ อยากจะขอบคุณแฟนคลับ จึงเป็นที่มาของ 30 Years Byrd & Heart Concert Sometimes But Always ในครั้งนี้

ไขข้อข้องใจเรื่องลิขสิทธิ์เพลง

เพื่อนๆ blogger สงสัยเรื่องลิขสิทธิ์เพลง ว่าทำไม เพลงของเบิร์ทกะฮาร์ท ไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ตั้งแต่ปี 2528 เพลงส่วนใหญ่ที่เบิร์ดกะฮาร์ท แต่งเอง เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง มีลิขสิทธิ์ 5 ปี สมัยนั้น เด็กอายุ 19-20 มองว่า โอ้โห ลิขสิทธิ์ยาว 5 ปี มันนานมากเลยนะ พวกเขามองว่า การทื่แต่งเพลงเอง เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง ไม่ได้มีบริษัทใดเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ร่วมกัน อิสระกว่า แต่เรื่องลึกๆที่เราคุยกัน ไม่ขอเผยแพร่ดีกว่า เอาเป็นว่า มีนักร้องดังๆ หลายคน มองขออนุญาต นำเพลงไปร้อง ก็อนุญาต จัดการเองได้ สะดวกกว่า ไม่ได้มีบริษัทดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ ไม่ได้มีสังกัด ที่เวลาเสนอเพลง แล้วต้องผ่านบริษัทด้วย ใครจะร้อง ใครขออนุญาต ต้องขอบริษัทด้วย แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ถ้าเมื่อ 30 ปีก่อน แต่งเพลงแล้วมีบริษัทดูแลลิขสิทธิ์ เพลงน่าจะดังกว่านี้ เพราะมีบริษัท จัดการให้

บรรยากาศการพูดคุย สัมภาษณ์พิเศษ หลายๆอย่าง เหมือนหนังสือ The Book : My Life Inside Music “กล่องบันทึกเรื่องราวชีวิต” Byrd & Heart Box Set Limited Edition ลองไปหาอ่านดูครับ

ก่อนสิ้นสุดการสัมภาษณ์พิเศษ quote ที่น่าประทับใจของพี่เบิร์ดคือ “บางเรื่อง หากมองย้อนกลับไป น่าเสียดาย ว่าเราเอามากลับคืนมาไม่ได้ ของที่อยู่ใกล้ตัวเรา อยู่ในมือเรา เรากลับไม่เห็นค่า” เป็นข้อคิดที่ดีมากๆ กับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เราตัดสินใจทำอะไรสักอย่างไปแล้ว เราแก้ไขมันไม่ได้แล้ว แต่เราก็ยอมรับมันและมีความสุขที่จะอยู่กับมัน

มีเรื่องประทับใจเล็กๆ หลังจบสัมภาษณ์ พี่เบิร์ดก็ทวนชื่อ blogger แต่ละคนอีกครั้ง พี่เขาเรียกผมว่าย้ง ผมก็บอกว่าชื่อหยก แต่ถ้าอ่านหนังสือ The Book : My Life Inside Music ของเบิร์ดกะฮาร์ท จะรู้ว่าพี่เขาพูดเหมือนหนังสือแป๊ะเลย ว่าพี่เขาชื่อย้ง พี่ฮาร์ดชื่อไช้ แต่ถ้าหนุ่มนักเรียนนอก จากอเมริกา ในสมัยนั้น บอกว่า ชื่อ ย้งกับไช้ มันก็เป็นชื่อจีน แต่ชื่อ เบิร์ดกะฮาร์ท เป็นชื่อภาษาอังกฤษทั้งคู่

ทำไม Byrd & Heart ถึงอยากจัดคอนเสิร์ตเอง?

คำถามจาก ทนายวิรัช ที่โดนใจมาก แปลกใจ ว่าทำไม ศิลปิน ถึงอยากจะจัดคอนเสิร์ตเอง โดยไม่ได้พึ่งบริษัทจัดงาน (พึ่งแต่ ThaiTicketMajor ขายบัตร)

ย้อนกลับไป ก่อนหน้านี้ เคยมีการจำหน่าย Byrd & Heart Box Set Limited Edition มาพร้อมกับ 20th Aniversary 20th/20 The Remaster Byrd & Heart แต่นั่นคือการบันทึกของ Byrd & Heart โดยทาง Spicy Disc เป็น Box Set และหนังสือพิเศษที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ Byrd & Heart มาถึงวันนี้ 30 ปี เบิร์ดกะฮาร์ท กับคอนเสิร์ต “est sugar free” Presents…. 30 Years Byrd & Heart Concert Sometimes But Always รอบนี้ คอนเสิร์ตที่พี่ๆ จัดขึ้นเอง เหตุผลของการจัดคอนเสิร์ตเอง ก็คือ คนฟังอยากฟังเพลงอะไรก็กำหนดได้เอง แขกรับเชิญคือใครก็เลือกได้เอง กำหนดรูปแบบได้เอง ทำให้การจัดคอนเสิร์ตเองในครั้งนี้ จัดเพราะศิลปิน “คิดถึง” แฟนคลับ คนชอบ Byrd & Heart มาเองจริงๆ มาเจอเพราะชอบ รัก คิดถึง ไม่เน้นเรื่องธุรกิจ

คอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็น The Last Concert แต่เป็น The Last ที่จัดเต็มครั้งสุดท้ายของพวกเขา (ยังสามารถพบ Byrd & Heart ร้องเพลงได้ตามที่ต่างๆ แต่ไม่ใช่จัดเต็มขนาดนี้ ระดับนี้ ครั้งนี้จัดเต็มเพราะอยากเจอแฟนคลับ) คอนเสิร์ตรอบนี้ จึงเป็นเหมือนกับการมิตติ้ง การเลี้ยงรุ่น เหมือน Byrd & Hert พาเพื่อนมามิตติ้งกัน เจอกัน จากกันมานาน ก็นัดเจอกัน คนที่เป็นแฟนคลับ คนที่เขียนจดหมายมาหา วันนี้ มาเจอกัน เพื่อนๆ เซนต์โย มาแตร์ ที่เป็นแฟนคลับ เบิร์ทกะฮาร์ท ก็เข้ามาร่วมฟังคอนเสิร์ต เหมือนนัดเลี้ยงรุ่น นัดเจอกันในรุ่นด้วย

และความสนุกของ “est sugar free” Presents…. 30 Years Byrd & Heart Concert Sometimes But Always ในครั้งนี้ นอกจากแขกรับเชิญ Blackhead และ etc แล้ว ยังมีเซอร์ไพร์สอีก บอกแล้วว่า คอนเสิร์ตนี้ เพื่อแฟนคลับจริงๆ สนใจ Meeting อยากเจอเพื่อน อยากเจอเบิร์ทกะฮาร์ท อยากเจอ ETC. อยากเจอ BlackHead เจอกันที่คอนเสิร์ต “est sugar free” Presents…. 30 Years Byrd & Heart Concert Sometimes But Always วันที่ 12 กันยายนนี้ ซื้อบัตร ->> thaiticketmajor.com