อยากดัง ต้องทำยังไง?

i-want-to-be-famous (Credit: skreened.com)

เมื่อต้นปี จำได้ว่ามีน้องในวงการ blogger คนนึง ถามผมในระหว่างเดินทางกลับบ้านด้วยกันว่า ถ้าผมอยากดังแบบพี่ จะต้องทำยังไง แล้วทำยังไงถึงดังล่ะพี่? เป็นคำถามที่ผมสตั๊นไป 10 วิ เพราะไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง เอิ่มม ทำยังไงถึงจะดังเหรอ ไม่รู้อ่ะ พอดีนึกถึงบล็อกเก่าที่เคยเขียนเมื่อปีก่อน ก็เลยเอามาปรับเล่าใหม่ดีกว่า

Credit: http://www.positioningmag.com/prnews/prnews.aspx?id=21432

พอผมได้ยินคำถามนี้ ก็ลองเอามาถามตัวผมเอง ว่าทำไมถึงอยากดัง คำตอบแรกที่คิดในหัวคือ จะดังไปทำไม (วะ) ผมอยากดังเหรอ? ดังแล้วได้อะไร? แต่เดิมที่ผมตั้งใจไว้คือ อยากเป็นบรรณาธิการหนังสือ แล้วเอาหนังสือไปให้พ่อแม่อ่าน ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ เท่านั้นเอง ไม่ได้เคยคิดว่าอยากจะดังเลย แต่สำหรับคำคอบของคำถามนี้ ทำให้ผมนึกถึงหนังสือ “อยากดัง… ต้องโดดเด่น” (ผู้เขียน Jesper Kunde / ผู้แปล ดนัย จันทร์เจ้าฉาย) เป็นหนังสือการตลาดเกี่ยวกับแบรนด์ในยุคปัจจุบันที่จะต้องมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จึงจะมีที่ว่างในตลาดได้ ถ้าเปรียบกับคนเป็นแบรนด์ แบรนด์อยากดัง เพราะคนจะได้นิยมชมชอบ ซื้อสินค้าและบริการมากๆ ใช่ นั่นมันแบรนด์ แบรนด์ดังคนก็ซื้อสินค้า แต่ถ้าคนจะดัง ดังแล้วจะได้อะไร เอ่อ อันนี้น่าคิด แต่ผมรู้แค่ว่า จะต้องโดดเด่น และไม่เหมือนใคร ก็คือมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคนอื่นๆ

ย้อนกลับไปที่คำถามเดิม ทำยังไงให้ดัง อยากดังทำยังไง เอ่อ ทำยังไงหว่า เรามาลองพลิกให้คนเป็นแบรนด์ดีกว่า ในมุมมองของผม มองความหมายของคำว่า “โดดเด่น” ให้น้ำหนักตรงนี้มากกว่าคำว่าดัง เพราะ VRZO, เทยเที่ยวไทย, เชฟหมี ต่างก็ดังจากความ โดดเด่น แปลกใหม่ แหวกแนว จากการที่พวกเขาดังขึ้นมาจากความแปลกนี่เอง ที่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจแต่แรกด้วยซ้ำว่ามันจะต้องดัง (สังเกตไหมว่าคนดัง มักจะดังจากจุดเริ่มต้น ที่ไม่ได้เคยคิดเลยว่าจะดัง หรือตั้งเป้าหมายว่าจะต้องดัง เขาทำด้วยความเป็นตัวของเขา เช่น แม่บ้านมีหนวด)

ผมเชื่อว่าความ “ดัง” มาจากการสั่งสมประสบการณ์ สำหรับการเป็นคนที่เชี่ยวชาญอะไรสักอย่างจนเป็นที่ยอมรับ หรือดังเพราะความโดดเด่น แต่เขาต้องมีฝีมือที่เรียกได้ว่า สุดยอด แต่จะดังให้เป็นที่รู้จักจะต้องใช้ความแปลกใหม่ การนำเสนอที่น่าสนใจ ยกตัวอย่าง Spoke Dark TV ที่ดังเพราะโดดเด่น แหวกแนว มีเอกลักษณ์ของตนเอง

หลายๆคน อาจมองว่า คนเป็นดารา นักร้อง นักเขียน หรือแม้แต่ blogger ดังแล้วจะมีผลตอบแทนอะไรเข้ามามากมาย แต่มันไม่ใช่น่ะสิ ถ้าเป็นดารา นักร้อง ศิลปิน การ “ดัง” คือการมีชื่อเสียง (จากหน้าตา จากฝีมือ จากเสียงร้อง จากความสามารถ จากอะไรก็แล้วแต่) สุดท้ายเราเองจะต้องดังในมุมที่มีคนยอมรับ เช่น ปูโลกเบี้ยว เราได้รู้จักว่าเขาเป็นดารา นักแสดง และตลก แต่ทำไม ตอนนี้คนรู้จักว่าเขาเป็นคนดูดวงที่มีชื่อเสียง คนเราอาจจะมีหลากหลายความสามารถ แต่เชื่อว่าจะต้องมีด้านหนึ่งที่เราโดดเด่นจนเป็นที่ยอมรับของคนอื่นๆ

ย้อนกลับมาที่คำถามที่ว่า อยากเป็น blogger ดัง ทำยังไง ผมอยากให้ลองถามตัวเองสักครั้งว่า สำหรับ blogger จะดังไปเพื่ออะไร? ดังแล้วจะได้อะไร เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนก็อยากจะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง ใครๆก็อยากดัง อยากจะมีเงิน อยากมีผลตอบแทน แต่สำหรับผมมองว่า blogger ก็คือคนธรรมดาคนนึง ที่แต่เดิมชอบทำอะไรด้วยใจรักอยู่แต่เดิม แล้วชอบแชร์ ชอบแบ่งปัน จนคนยอมรับ แต่ต้องใช้เวลานาน ไม่ใช่ 3 วัน 7 วัน 3 เดือนดัง มันไม่ใช่ สำหรับผมมองว่า ถ้าอยากจะดัง น่าจะอยากให้คนยอมรับที่ความสามารถ มากกว่าความดังนะ

Credit: www.urbansamurai.com

กลับมาที่คำถามที่ว่า “ถ้าอยากดัง ทำยังไง?” คำถามนี้ ผมตอบไม่ได้ แต่ถ้าถามว่า อยากโดดเด่น อยากได้รับการยอมรับ ทำยังไง? ผมตอบเขาว่าไปว่า ไม่รู้ว่าทำไมถึงดัง ไม่รู้ว่าทำยังไงถึงดัง ผมไม่รู้ รู้แต่ว่า มันต้องใช้เวลา พิสูจน์ให้คนยอมรับ ว่าความสามารถของเรามีถึงขนาดที่ว่าคนทั่วไปยอมรับจนถึงขั้นมีชื่อเสียง แต่นั่นมันจะต้องใช้เวลาหลายปี จนคนที่ดังๆ เห็นความสามารถ ช่วยดัน มุมมองของผมคือ ถ้าอยากจะดัง จะต้องมีคนคนดังกว่าช่วยดัน เช่น คนที่ได้รับการยอมรับความสามารถจนถึงขั้นเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ ถ้าไม่มีคนผลักดัน ไม่มีคนเห็นความสามารถของเรา แล้วดันขึ้นไป ก็ยากจะดัง ยกเว้นว่าเรามีความโดดเด่นมากพอ พอจะที่จะทำให้คนอื่นๆ พร้อมใจกันให้การยอมรับ

famous (credit: iliketoquote.com)

แต่จะทำอย่างไรล่ะ เพื่อให้คนอื่นยอมรับ นอกจากความสามารถ ความทะเยอทะยาน ความขยัน ผมมองย้อนกลับไปที่ตัวผม ในขณะที่เขียนบล็อกใหม่ๆ ผมเขียนทุกวัน เขียนบ่อยๆ หาความรู้ตลอดเวลา ไปออกงานทุกงาน ไปร่วมทุกงานสัมมนา กลับบ้านดึกก็ต้องเขียนบล็อก คืออยากจะแบ่งปันจริงๆ ไม่ใช่ทำเพราะว่าอยากจะดัง และคุณจะต้องมีพฤติกรรมที่น่าเคารพนับถือ น่ายกย่อง รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ เข้าหาผู้ใหญ่เป็น ต้องสุภาพ นอบน้อม พูดง่ายๆคือทำตัวให้ผู้ใหญ่เขาเอ็นดู และทำจนเขาเห็นความสามารถของเรา จนเปิดโอกาสให้เราได้ทำ จนถึงจุดๆนึงที่ทำให้คนทั่วไปยอมรับ นั่นแหล่ะคือความโดดเด่น เป็นที่ยอมรับ มีคนรู้จัก ส่วนความดังนั่นมาเป็นผลพลอยได้ต่างหาก สุดท้ายความสำเร็จมาจากตัวของเราเอง ความสามารถของเราเอง ไม่ใช่การอยากดัง ดังนั้นผมเองก็ตอบไม่ได้ว่า อยากดังต้องทำยังไง เพราะมันไม่ได้มี Step อะไรเป็นขั้นตอน หากแต่ความตั้งใจจริง การฝึกฝน ความอยากรู้ อยากแชร์ อยากแบ่งปัน ทำให้เราเกิดความเชี่ยวชาญจนกลายเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปได้

ถ้าอยากดัง ต้องทำยังไง

สารภาพว่า ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าอยากดัง จะต้องทำยังไง แต่สำหรับผมโดยส่วนตัว เรารู้ว่าชอบอะไร ถนัดอะไร (นี่คือสเต็ปแรกต่างหาก เราจะต้องรู้ว่าเราถนัดอะไร ชอบอะไร การฝีนทำอะไรที่เราไม่ถนัด อยู่ได้ไหม่นานเราก็อึดอัดเพราะไม่เป็นตัวของตัวเอง) แนะนำว่า ทำมันเข้าไป ฝึกฝนมันเข้าไป ส่วนตัวผมชอบเขียน อยากเป็นนักเขียน อยากเขียนบล็อกก็เขียนมันเข้าไป ดึกดื่นออกงานกลับดึกก็เขียน เขียนเพราะอยากแชร์ อยากแบ่งปัน อยากเล่าต่อ ไม่ใช่ทำเพราะอยากดัง เพราะการได้รับการยอมรับนั้นยั่งยืนกว่าการดังที่ดังข้ามคืน สักพักคนก็ลืม เพราะมันไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ดิ้งเฉพาะตัวนั่นเอง

หากมองการสร้างแบรนด์ (ตัวคุณเอง) ให้เป็นที่รู้จัก มันไม่ใช่การอยากดัง แต่เป็นการนำเสนอเอกลักษณ์ที่แปลกใหม่ให้แตกต่างจนเป็นที่ยอมรับต่างหาก

ตัวอย่าง คนที่ “ดัง” จากการเขียน blog

ผมจำได้ว่ารู้จัก @Chamanz13 จากการออกอีเว้นท์กับ @darkmasterxxx เขาเคยถามผมว่า เขาอยากจะเขียนบล็อก จะต้องเริ่มยังไง จะต้องทำยังไง ตอนนั้นผมถามเขาว่า เขาถนัดอะไร ชอบอะไร ตอนนั้นเขาถนัดทวิตเรื่องบอล เรื่องกาแฟ ผมก็บอกว่าเอาสิ ชอบอะไรก็เขียนไป แบ่งปัน เล่าเหมือนเราเขียนไดอารี่ ทุกวันนี้เขาเขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ จนเป็นที่รู้จักและคอลัมน์วิจารณ์หนังดังๆคว้าตัวเขาไปทำงาน เขาได้พิสูจน์ให้ผมได้เห็นว่า ความตั้งใจจริง ความรัก ความถนัด การฝึกฝน ความทะเยอทะยาน ทำให้เขาไปถึงฝั่งฝันได้ ทั้งที่ตัวเขาเองไม่เคยคาดคิดด้วยซ้ำ ว่าจะได้รับยอมรับมากขนาดนี้ เขาเขียนวิจารณ์หนังหลายปี เขาเขียนเยอะมาก เขียนเกือบทุกวัน เขาเป็นที่รู้จักของนักวิจารณ์หนังหลายๆคน ผมเองทึ่งกับความสามารถและยังจำได้ถึงวันที่เขาถามผมว่าเขาอยากเขียนบล็อก เขาไปไกลมาก เขาไม่ได้เขียนเรื่องบอล หรือกาแฟ อย่างที่ผมเคยรู้จักเขาเพียงผิวเผินในตอนนั้น ถึงวันนี้ ผมยอมรับในความสามารถเขาได้เต็มปาก และผมเองก็ยอมรับว่า ถ้าให้ผมเขียนวิจารณ์หนังแบบเขา ผมทำไม่ได้ เขาสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาได้สุดยอดจริงๆ ผมว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดี ตรงกับมุมมองของผมคือ ชอบอะไร รักอะไร ทำไปเลย ทำให้มันสุดๆ จนมีคนยอมรับ สุดท้ายความดังก็ตามมาเอง