ลองของ ใช้งานจริง EPSON L300 กับหมึกแท้งค์สุดประหยัด แสนคุ้มค่า

หลังจากที่ผมได้รีวิวแนะนำ EPSON L300 กับระบบหมึกแท้งค์ไปแล้ว วันนี้ก็ถึงเวลาที่จะมาบอกเล่าการใช้งานจริง ความง่ายในการเติมหมึกไม่หกเลอะเทอะ โดย EPSON L300 มาพร้อมหมึกสี และหมึกดำ โดยในชุด Start Kit มีมาให้เพิ่มอีก 2 ขวด

การเติมหมึกครั้งแรก
เราควรศึกษาและเรียนรู้ข้อควรระวังในการเติมหมึก เพราะเป็นหัวใจสำคัญในการพิมพ์ให้คุณภาพออกมาดี โดยก่อนเติมหมึก ห้ามเชื่อมต่อสายไฟและสาย USB อันนี้ต้องระวังและรอบคอบทุกครั้งก่อนเติมหมึก และตรวจสอบตำแหน่งของวาล์วหมึก ให้ปรับไปที่สัญลักษณ์รูปพรินเตอร์ และจะปรับไปที่สัญลักษณ์รูปขณะเคลื่อนย้ายหรือ(พรินเตอร์บนรถเข็น) ก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนย้ายพรินเตอร์ เมื่อเคลื่อนย้ายพรินเตอร์เสร็จแล้วให้ปรับกลับคืนไปที่สัญลักษณ์รูปพรินเตอร์เช่นเดิม และตรวจสอบการวางชุดตลับหมึก ไม่ให้ท่อน้ำหมึกบิด ระบบหมึกแท้งค์ต้องระวังตรงนี้ด้วย เพื่อบำรุงรักษาเครื่องให้ใช้งานได้นานๆ และเพื่อคุณภาพการพิมพ์ที่ดี

ก่อนอื่นต้องบอกตามตรงว่า ผมเองไม่เคยเติมหมึกแท้งค์เลย ไม่เคยใช้หมึกแท้งค์กับเครื่องส่วนตัวเลยด้วย นี่คือข้อดีที่จะทดสอบว่า การเติมหมึกเข้าแท้งค์ EPSON L300 จะง่ายสำหรับมือใหม่หัดเติมอย่างผมไหม?

สำรวจและตรวจสอบก่อนเติมหมึก

อันดับแรก ก่อนเติมหมึก อย่าเพิ่งรีบผลีผลามเติม แม้ว่าจะรีบพรินต์งานก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ห้ามเสียบปลั๊กไฟและสาย
USB ตรวจสอบให้ดีก่อนเริ่มเติมหมึก ว่าปรับวาล์วหมึกปรับไปที่สัญลักษณ์รูปพรินเตอร์แล้ว

 

เริ่มการเติมหมึก

ในคู่มือแนะนำว่า ควรเติมหมึกให้หมดขวดในครั้งเดียว และควรเติมหมึกให้ไม่ต่ำกว่าขีดระดับที่กำหนด รวมไปถึง อายุการใช้งานที่ดีที่สุดในการใช้งานหมึกแท้งค์คือ 6 เดือน เพราะถึงหมึกแท้งค์สามารถเติมหมึกได้ตลอด แต่ก็ควรมีการบำรุงรักษา

การพรินต์งานบ้างอย่างสม่ำเสมอ หรือหากไม่ค่อยได้ใช้งานก็ควรสั่งทำความสะอาดหัวพิมพ์เป็นประจำเพื่อป้องกันหัวพิมพ์อุดตัน

ข้อควรระวัง และตอบข้อสงสัย “มือเราจะเปื้อนน้ำหมึกไหม?”

ถึงแม้ว่าจะเป็นหมึกแท้งค์แท้จาก EPSON แต่ยังไงขึ้นชื่อว่าเป็นหมึกเติม ก็มีโอกาสหกเลอะมือได้เหมือนกัน แต่อาจจะแค่เปื้อนไม่ได้ถึงขั้นหกเลอะเทอะ การถือขวดน้ำหมึกในขณะเติมหมึกควรระวังและถือขวดไม่ให้เอียง เพราะน้ำหมึกยังไงก็มีโอกาสหกได้ ในการทดสอบพบว่า จุดที่มือเปื้อน ไม่ใช่ขั้นตอนการเติมหมึก แต่เป็นตอนแกะกระดาษฟอล์ยที่หุ้มขวดหมึกเติมไว้ เลอะตอนแกะนั่นแหล่ะครับ ส่วนการเติมปกติอาจจะมีน้ำหมึกเลอะขอบตลับหมึกบ้างนิดหน่อย ควรเติมหมึกด้วยความระมัดระวัง อีกส่วนที่อาจเลอะหมึกก็คือฝาจุก ที่ผมดันพลาดปิดฝาจุกผิดด้าน มันก็เลยเลอะมือ อันนี้ความประมาทของผมเองครับ (บอกแล้วว่ามือใหม่)

อย่างที่บอกไปว่าผมเป็นมือใหม่หัดเติมหมึก ก็ยังเติมได้แบบง่ายๆ นี่ถ้ากระทรวงของ ผอ. ใช้หมึกแท้ของ EPSON L300 หมึกก็คงไม่หกเลอะเทอะ ให้ช้ำใจแบบนี้ ;P

หลังจากเติมหมึกแล้ว เราจะต้องทำการชาร์จน้ำหมึกเข้าสู่ระบบ จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วติดตั้งซอฟต์แวร์ของ EPSON L300 เพื่อจัดการการพิมพ์

หลังจากที่ชาร์ทหมึกเข้าสู่ระบบเสร็จแล้ว ยังไม่ต้องเสียบสาย USB และรอจนไฟสีเขียวที่ปุ่ม Power หยุดกระพริบ หรือติดค้าง จึงเริ่มติดตั้งซอฟต์แวร์

ย้ำอีกครั้งเรื่องวาล์ว ต้องปรับให้ชี้ไปในตำแหน่งสัญลักษณ์รูปพรินเตอร์

จากนั้นติดตั้งซอฟต์แวร์ จนถึงขั้นตอนให้เสียบสาย USB จึงเชื่อมต่อสาย USB

และต่อไปนี้คือไดร์เวอร์หรือเครื่องมือจัดการการพิมพ์ ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าได้ตามต้องการ

การบำรุงรักษาพรินเตอร์ น้ำหมึก และหัวพิมพ์

ในหน้าแรก เมื่อกดที่เมนู “ปริมาณน้ำหมึก” พบข้อความแสดงว่าให้ตรวจสอบจากแท้งค์ด้วยตนเอง และสิ่งที่เน้นย้ำเพราะสำคัญมากก็คือเรื่องการรักษาระดับปริมาณน้ำหมึกไม่ให้ต่ำกว่าขีดระดับน้ำหมึก

การเติมหมึกไม่ใช่เรื่องยาก ง่ายและสะดวก ประหยัด ย้ำอีกครั้งกับหมึกแท้ EPSON L300 ให้คุณภาพการพิมพ์ที่ดีกว่า มีจำนวนพิมพ์ต่อหน้าเยอะกว่า คุ้มค่ากว่า

สรุป

จากการใช้งาน EPSON L300 พบว่า การเติมหมึกง่ายมาก มือใหม่อย่างผมก็เติมหมึกได้สบาย เลอะมือนิดหน่อย พอเชี่ยวชาญคงคล่องขึ้น แถมพรินต์ได้เยอะด้วยหมึกดำแถมอีก 2 ขวด ราคาต่อขวดก็ไม่แพงด้วย หมึกแท็งค์ถูกกฏหมายไม่ใช่แท็งค์เถื่อน ต้อง EPSON L-Series ประกันไม่หมด พิมพ์ถูกเงิน งานถูกใจ