เก็บประเด็นจากงานสัมมนา The Effects of Mobile Services on Brand Relationships : Mobile Internet Seminar 2011

งานสัมมนา Mobile Internet Marketing & Advertising Seminar 2011 จัดโดย BuzzCity ผู้ให้บริการโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่โรงแรม Anoma Hotel ราชประสงค์ (รายละเอียด)

สำหรับวิทยากร ก็มาจาก BuzzCity, MEC:Interaction, HTC, AIS, SF Cinema City, 2 3 Perspective, KBank งานนี้มีการอัพเดตเรื่องโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์พกพา ในการทำการตลาดบน Mobile Internet ผมได้รวบรวมรายละเอียดคร่าวๆในงานให้เป็น Reference หลังจากที่ได้ live tweet สดไปแล้ว

ทำไมต้อง Mobile Internet

อันดับแรกก็คือ การวิจัยและศึกษาพฤตกิรรมของคนเราในปัจจุบัน ว่าทำไมเราจะต้องพึ่งโฆษณาบนมือถือ ก็เพราะว่า ทีวี เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด รองลงมาก็คือ วิทยุ และสิ่งพิมพ์ การเติบโตของอินเทอร์เน็ต มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขยายไปยังอุปกรณ์ต่างๆ อย่างโทรศัพท์มือถือ เพราะทุกคนเริ่มมีพฤติกรรมที่พกมือถือออกจากบ้าน ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สื่อสาร และมินิคอมพิวเตอร์ไปซะแล้ว ดังนั้นโอกาสในการทำโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น นอกจากนี้ จากพฤติกรรมที่เราใช้มือถือในการสนทนา เพิ่มมาเป็นการใช้งาน Data มากขึ้น โดยเฉพาะ ฟีเจอร์โฟน ที่ตอนนี้ต้องออนไลน์ twitter, facebook, chat ได้แล้ว ไม่เว้นแม้แต่ Jfone หรือมือถือฟีเจอร์โฟนทั่วไป ยอดฮิตก็อย่าง Samsung Punch ที่เน้นแช็ต และ Nokia Chat ยังไม่รวม Smart Phone อย่าง BlackBerry, iPhone, Android อีก อ้อ อีกอย่างคือ ฟีเจอร์โฟน ที่ทำหน้าที่เป็นสมาร์ทโฟนได้ด้วยคือ Bada อย่างพวก Samsung Wave นั่นเอง

ดังนั้นเมื่อเรารับข่าวสารจากทีวี สิ่งพิมพ์ (รวมพวกใบปลิว โบรชัวร์) สิ่งสำคัญก็คือ อินเทอร์เน็ต การเข้าถึง มองจาก คนไทย 66-67 ล้านคน แต่มีจำนวนมือถือมากถึง 69 ล้านเครื่อง และมีจำนวนซิมการ์ดที่ใช้บริการกว่า 69 ล้านซิม นั่นหมายถึงว่า แทบจะทุกคน มีมือถือ 2-3 เครื่อง หรือ 2-3 ซิมกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ใช้งานบน Air Card, Mi-Fi หรือเอามือถือมาใช้แชร์อินเทอร์เน็ตมากขึ้นด้วย

นอกจากเราที่ใช้ สนทนา (voice) แล้ว เรายังใช้ในการส่ง SMS ดูจากช่วงปีใหม่ เราใช้มือถือส่ง SMS เยอะมาก นช่วงปีใหม่ โดยมีการส่ง SMS เครือข่าย AIS 88.5M ข้อความ DTAC 75M ข้อความ และ Truemove 33M ข้อความ

แต่การทำ Mobile Advertising จะต้องเข้าใจธรรมชาติของการใช้งานบนมือถือ หลายองค์กรเอาเว็บยัดลงมือถือ บ้านเรายังไม่มี 3G เป็นทางการ เจอ EDGE เข้าไปก็แน่นิ่ง โหลดอะไรไม่ขึ้น ส่วนใหญ่ยังใช้ ฟีเจอร์โฟนต่อเน็ตกันอยู่ ภาพก็เลยไม่สวย ยกตัวอย่างแอพของ นกแอร์ และเซ็นทรัล บน iPhone ที่เข้าใจและทำ Mobile Site ที่คัดเฉพาะลิงก์ที่จำเป็นในการใช้งานบน Mobile เท่านั้นเพื่อให้โหลดเร็ว

ส่วนทาง SF ก็ออกมาแนะนำบริการ Mobile Ticketing ที่มีจุดกำเนิดจาก ต่อคิวยาว ลูกค้าบ่น มีเบอร์ให้โทรจอง Call Center ก็ดันโทรไม่ติดอีก ก็เลยเปิดให้จองผ่านเว็บไซต์ และทำแอพขึ้นมาให้ใช้จองตั๋วหนัง ตอนนี้ระบบ Mobile Ticketing มีในการจองตั๋วโดยสารเครื่องบิน และจองตั๋วหนัง (ความเห็นผู้เขียน: ถ้าจองเดี่ยว 9 ใน app ได้ เว็บคงล่มเช่นกัน)

จุดหลักของ SF Showtimes คือเป็น Mobile Ticketing ที่ให้ Order จองตั๋ว จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต เลือกโรงที่ต้องการ เลือกที่นั่งได้เองเหมือนอยู่หน้าเค้าเตอร์ โดยมียอดรวมทั้งหมดในการจำหน่ายตั๋ว 25ล้านใบต่อปี และแน่นอนว่าต่อไป มีการนำ NFC มาอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น

แต่ปัญหาคือ ยังต้องผูกกับระบบของบัตรเครดิตอยู่ เรื่องของ Mobile Payment เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่าตอนนี้มีการใช้บัตรเครดิตมากขึ้น

ส่วนทาง HTC ได้มีการพูดถึงเทรนด์ของสมาร์ทโฟน เพราะคนเราเปิดเผยตัวเองกันมากขึ้น แสดงออกมากขึ้นบน Social networks ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก เมื่อ 5 ปีที่แล้วยังไม่มี iPhone, Android ส่วน BlackBerry นั้นใช้ในเชิงธุรกิจ ตลาด Android โตเร็วมาก แต่ HTC ก็ไม่ได้ละทิ้ง Windows Phone ยังเหนียวแน่นกันอยู่ แต่ต้องยอมรับว่า Smart Phone ทำให้เกิด New Media ส่วน HTC นั้นได้มี MyHTC S ที่เชื่อมโยงนักพัฒนา และการพัฒนาร่วมกับ Jimmy Software เพื่อพัฒนาโฆษณาบนมือถือ การสร้างสังคม HTC บน HTC Chat เรียกได้ว่าอยากแช็ต ไม่จำเป็นต้องใช้ BlackBerry ส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือนั้น การที่ระบบปฏิบัติการรองรับ Flash ทำให้การเล่นเว็บสนุกขึ้นบน Android เพราะดูจากสถิติแล้ว คนใช้ Android มีพฤติกรรมในการใช้งาน Data มากกว่า iPhone ถึง 4 เท่า

ส่วนทาง 2 3 Perspective น่าสนใจมาก เพราะมีเรื่องของแอพ ที่น่าสนใจคือ Amazing Thailand, WiKalenda, โปรโมทอีเว้นท์ การท่องเที่ยว ซึ่งแอพ Amazing Thailand นี้สร้าง ให้เกิด Impression กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 20 ล้าน impressions ด้วยปริมาณการดาวน์โหลด 200,000 ครั้ง ส่วน Shoppening น่าสนใจมาก และข่าว INN นอกจากนี้ก็มีเกม “Smile Land” ซึ่งเป็นเกมที่น่าสนใจเพราะเป็นเกมท่องเที่ยวบนโซเชียลมีเดีย พร้อมการแนะนำแอพแบบไทยๆที่ผสานวัฒนธรรมอย่าง TukTuk Racing ขับรถตุ๊ก ตุ๊ก, Somtam Sukjai ส้มตำสุขใจ, Muay Thai มวยไทยนำเสนอวัฒนธรรมไทยผ่านแอพ

ส่วนทาง KBank มาแนะนำ Mobile Banking นึกถึงเพลง “ฝาก” ขึ้นมาทันที เพราะ Mobile Payment มาจาก Mobile Banking ของ KBank ที่นำเสนอตาม Lifestyle ของคน ไม่ใช่ขายของ แต่ข้อจำกัดยังเป็นมือถือ ที่ส่วนใหญ่ยังเป็น Features Phone

ทาง AIS มาแนะนำเรื่องของแอพ Amazing Thailand, Sansiri, eBay การนำเอา Mobile Marketing ไปใช้ การใช้งาน Mobile Coupon ผ่าน SMS, IVR ที่ไม่ว่ามือถือรุ่นไหนก็ทำได้ แต่อย่าลืมว่า ถ้าซับซ้อนมาก ผู้ใช้ไม่ทนในการงมกดเข้าเมนู ทนได้มากที่สุด 1 นาทีและอย่าให้เกิน 5 ขั้นตอน ยากกว่านั้นจะเลิกใช้

และข้อมูลจาก AIS ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ 7.5 ล้านคน ใช้งานบน Air Card 2% บน SmartPhone 4% และใช้บน Features Phone 94%

แล้วคุณล่ะ พร้อมหรือยังที่จะทำตลาดบน Mobile Internet?????