เรื่องง่ายๆในการต่อเน็ตด้วย WiFi Tethering

แรกเห็นคำว่า WiFi Tethering หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร ลองนึกภาพตามว่า ปกติเราใช้มือถือต่อเน็ตผ่าน EDGE/GPRS อยู่แล้ว หากนำโน้ตบุ๊คไปใช้งานข้างนอก ใครที่มี Username & Password ของ True Wi-Fi ก็สามารถนำไปใช้เน็ตได้ตามร้านกาแฟต่างๆ ที่มีสัญญาณ True Wi-Fi ให้ใช้ รวมไปถึง Starbucks ที่มี KSC Wi-Fi hot spot ให้เราเอาชั่วโมงเน็ต Wi-Fi ไปกรอกเพื่อเชื่อมต่อได้ แต่หากคุณไปตามโรงแรม แล้วดันเจอสัญญาณ Wi-Fi ของโรงแรม ร้านค้า อยากจะใช้ก็เสียตังซื้อชั่วโมงละหลายร้อย แบบนี้ไม่คุ้มแน่

ปกติใช้เน็ตข้างนอกก็แค่รับเมล์ แช็ต หาข้อมูล บางคนก็ใช้มือถือต่อเป็นโมเด็มแทน ก็สะดวกดี พกสายไปด้วย เสียบชาร์จไปด้วย ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากจะใช้หลายเครื่องล่ะ หรือต้องการใช้งาน Wi-Fi ล่ะทำยังไง ผมจะอธิบายง่ายๆให้ติดตามกัน

จะดีไหมหากมือถือคุณต่อเน็ตได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น EDGE / GPRS / หรือ 3G แล้วปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ให้กับมือถือเครื่องอื่นได้ต่อเน็ต (เพราะไม่ได้สมัครบริการ EDGE รายชั่วโมงไว้) หรือให้คุณต่อเน็ตบน โน้ตบุ๊ก ได้ด้วยการจับสัญญาณ Wi-Fi ที่ปล่อยจากมือถือ แบบนี้สะดวกดี เพราะครั้นที่จะเอามือถือไปต่อกับโน้ตบุ๊กก็ต้องลงโปรแกรม ลงไดร์เวอร์ ยุ่งยากเข้าไปอีก

เข้าใจง่ายๆเลยก็คือ ทำให้มือถือ ที่สามารถต่อเน็ตด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ให้อุปกรณ์อื่น โน้ตบุ๊ก มือถือ เครื่องเล่นต่างๆ แต่ความเร็วก็จะได้เท่านั้นคือ EDGE / GPRS / 3G แล้วแต่สัญญาณจะครอบคลุม แต่มันก็สะดวกเอามากๆ

ที่นี้ WiFi Tethering ทำยังไง จริงๆแล้วมือถือพวกสมาร์ทโฟน ทำได้ง่ายไม่ยาก ทั้ง Symbian, Android, iPhone ตั้งค่าไม่ยาก ผมใช้กับ Samsung Galaxy Spica กับ Android 2.1 root แล้วใช้กับ WiFi Tethering for rooted user ได้สบาย แต่เตือนไว้ก่อนแบตหมดเร็วมากเพราะใช้ทั้งต่อเน็ตทั้งปล่อยสัญญาณ

แต่อย่างน้องช่วยแก้ขัดเวลาไปที่ไหนเจอแต่ Wi-Fi ยี่ห้ออื่น หรือติดรหัสของร้านค้า โรงแรม ไปที่ไหนก็ต่อเน็ตได้ไม่ง้อใครด้วย

ใครใช้ Android ไปดูที่นี่ http://code.google.com/p/android-wifi-tether/

อีกแบบคือ MiFi 3G Mobile Wireless Router แบบนี้เหมือนตัวเร้าเตอร์ตามบ้าน แต่จะมีขนาดเล็กกว่า วิธีใช้ก็ง่ายๆคือ เอาซิมการ์ด 3G ใส่เข้่าไป

แล้วก็จัดการแชร์ Wi-Fi แค่นี้ก็แชร์ Wi-Fi ให้อุปกรณ์ได้หลายตัวแล้ว ซึ่งแบบนี้จะต้องชาร์ตแบตตัวอุปกรณ์ด้วย แต่พกไปที่ไหนก็ใช้งานสะดวกมากฃ

เสริมอีกนิดนึง ใครที่คิดว่าอยากได้ iPad แต่ไม่มี 3G ใช้เป็นตัว Wi-Fi ก็ใช้วิธีการนี้ได้เช่นกัน ต่อเน็ตที่ไหนก็ได้สะดวกดีครับ